ฝรั่งเศส เป็นประเทศผู้นำอันดับหนึ่งในการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์
โดย:คุณกมล ตรรกบุตร |
. |
. |
ประเทศฝรั่งเศส นับได้ว่าเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ และเป็นประเทศผู้นำอันดับหนึ่งในการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ โดยมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าประมาณ 80% โดยดำเนินการตามนโยบายด้านพลังงานอย่างมั่นคงมาตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์น้ำมันครั้งแรกในปี พ.ศ. 2516 |
. |
ปัจจุบันฝรั่งเศสมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 59 โรง ที่ดำเนินการโดยการไฟฟ้าฝรั่งเศส (EdF) คิดเป็นกำลังผลิตติดตั้ง 63,000 MWe เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นแรกขนาดกำลังผลิต 900 MWe จำนวน 34 โรง โรงรุ่นที่ 2 ขนาด 1,300 MWe จำนวน 20 โรง |
. |
โรงรุ่นที่ 3 ขนาด 1,450 MWe จำนวน 4 โรง และโรงล่าสุดรุ่นที่ 3+ มีชื่อเรียกว่า EPR (European Pressurized Water Reactor) ขนาด 1,650 MWe ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวน 1 โรง ในพื้นที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ Flamanville ซึ่งเดิมมีโรงรุ่นที่ 2 อยู่แล้ว 2 โรง ๆ ละ 1,300 MWe |
. |
ฝรั่งเศสเป็นผู้ส่งออกไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกคิดเป็นรายได้ประชาชาติปีละมากกว่า 3 พันล้านยูโร (ประมาณ 150,000 ล้านบาท) และยังเป็นผู้ส่งออกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่แห่งหนึ่งของโลก สามารถทำการผลิตไฟฟ้ามากกว่าปีละ 426 พันล้านหน่วย (426 GWh/year) โดยในปี 2549 ผลิต 549 พันล้านหน่วย ใช้ในประเทศ 482 พันล้านหน่วย คิดเป็นการใช้ไฟฟ้า 7,700 หน่วยต่อคน (kWh/person) โดยต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยประมาณ 1.50 บาท/หน่วย (3 Euro Cent/kWh) |
. |
การไฟฟ้าฝรั่งเศสมีพนักงานรวมทั้งหมด 172,000 คน ทำงานในฝรั่งเศส 113,000 คน และทำงานโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ประมาณ 20,000 คน ในปี พ.ศ. 2550 มีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ 88 % พลังน้ำ 8 % Fossil Fuel 4 % และจากพลังงานทดแทนอีกเล็กน้อย จึงมีการปล่อยก๊าซ Carbon Di-Oxide ต่ำพียง 50 g/kWh เทียบกับที่ปล่อยจากทั้ง Europe 400 g/kWh |
. |
แผนที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในฝรั่งเศส |
. |
ปฏิกณ์รุ่น 3 + EPR สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ |
. |
ในปี พ.ศ. 2551 รัฐบาลเห็นชอบให้องค์กรพลังงานปรมาณู (CEA) เริ่มงานวิจัยพัฒนาปฏิกรณ์รุ่น 4 ซึ่งเน้นการพัฒนาการใช้ประโยชน์แหล่งเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ได้มากกว่าที่ใช้ไป และมีของเสียจากปฏิกิริยาต่ำสุด ในลักษณะของปฏิกรณ์แบบ Fast Breeder Reactors โดยตั้งกำหนดการจะเริ่มเดินเครื่องโรงต้นแบบในปี พ.ศ. 2563 ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 40 ล้านยูโรต่อปี |
. |
นอกจากนี้ฝรั่งเศสยังเป็นศูนย์กลางการวิจัยพัฒนาการใช้ประโยชน์ จากปฏิกิริยารวมตัวของมวลเบา (Fusion Reaction) ที่สามารถให้พลังงานสูงกว่าพลังงานนิวเคลียร์แบบแตกตัว ซึ่งเป็นปฏิกิริยาบริเวณผิวดวงอาทิตย์ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 5,000 องศาเซลเซียส โครงการ ITER 500 MWe ที่ Cadarach ฝรั่งเศสเป็นการร่วมมือของประเทศชั้นนำกว่า 10 ประเทศ (สหพันธรัฐยุโรป จีน สวิส ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย สหรัฐฯ) |
. |
โครงการวิจัยพัฒนาระบบปฏิกรณ์แบบรวมตัว ITER ที่ Cadarach ฝรั่งเศส |
. |
บทวิเคราะห์ตามความคิดเห็นของผู้เขียน อ. กมล ตรรกบุตร |
. |
ที่มา : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานแห่งชาติ |