|
สายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงาน SET Note Corporate Update พบว่า ผลประกอบการบจ. ในภาพรวมปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยมีบจ. ที่มีกำไรสุทธิเป็นบวกถึงร้อยละ 80 (350 บริษัท จาก 436 บริษัท) |
| . |
|
ในขณะที่มีจำนวนบจ. ลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2552 รวมทั้ง มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นจากกระแสเงินสดรับจากการดำเนินการที่สูงขึ้น และแม้กำไรสุทธิรวมของบจ. จะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2552 แต่เป็นผลจากกลุ่มทรัพยากรซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยเฉพาะชั่วคราว ส่วนกำไรสุทธิของบจ. ในกลุ่มอื่นยังคงขยายตัวต่อเนื่อง |
| . |
|
สายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ นำเสนอ SET Note Corporate Update ฉบับที่ 4/2552 รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (ไม่รวมบริษัทที่เข้าข่ายเพิกถอนกิจการ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์) ในไตรมาส 3/2552 ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยมีกำไรสุทธิรวม 113.19 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.07 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2552 กำไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียนปรับลดลงร้อยละ 10.38 |
| . |
|
โดยเป็นผลจากกำไรสุทธิของกลุ่มทรัพยากรซึ่งปรับลดลงร้อยละ 29.51 เนื่องจากผลกระทบของค่าการกลั่นที่ลดลงและกำไรในสินค้าคงคลังที่ลดลง รวมถึงการตั้งสำรองค่าเสียหายในแหล่งน้ำมันของบางบริษัท ทั้งนี้ หากไม่รวมกำไรสุทธิของกลุ่มทรัพยากรจะทำให้กำไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียนปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.26 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2552 |
| . |
|
นอกจากนี้ มีจำนวนบริษัทที่มีผลกำไรสุทธิเป็นบวกถึง 350 บริษัท จากทั้งหมด 436 บริษัท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 80.28 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2552 ที่ร้อยละ 75.23 โดยมีบริษัทที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2552 ถึง 268 บริษัท ซึ่งสะท้อนได้ว่าบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีผลการดำเนินงานดีขึ้น |
| . |
|
เมื่อพิจารณารายกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่าทั้ง 8 กลุ่มอุตสาหกรรมมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน โดยมี 4 กลุ่มที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2552 คือกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มอุตสาหกรรมการบริการ ทั้งนี้ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้าง มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับไตรมาส เดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 2/2552 คือเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.07 และ 16.23 ตามลำดับ |
| . |
|
ด้านประสิทธิภาพการดำเนินงาน (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มที่เข้าข่ายเพิกถอนกิจการ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์) ในไตรมาส 3/2552 อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity: ROE) ปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 3.31 เทียบกับร้อยละ 2.47 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลงเทียบกับร้อยละ 3.82 ในไตรมาส 2/2552 อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มทรัพยากร พบว่า ROE ดีขึ้นเมื่อเทียบกับทั้งไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 2/2552 |
| . |
|
เมื่อพิจารณาโครงสร้างเงินทุน พบว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt/Equity Ratio) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 1.18 เท่า อย่างไรก็ตาม เป็นระดับที่ไม่อยู่ในเกณฑ์สูงเมื่อเทียบกับช่วงเศรษฐกิจปกติ (ปี 2547–2551) ที่มีระดับหนี้สินต่อทุนเฉลี่ยอยู่ในช่วง 1.02-1.28 เท่า |
| . |
|
ขณะที่เมื่อพิจารณาด้านสภาพคล่อง พบว่ามีสภาพคล่องดีขึ้นโดยมีกระแสเงินสดจ่ายสุทธิ 6.65 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 2/2552 และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีกระแสเงินสดรับจากกิจกรรมการดำเนินงาน (Net Cash Flow From Operating) เพิ่มขึ้น |
| . |
|
ภาพรวมด้านการลงทุน (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มที่เข้าข่ายเพิกถอนกิจการ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์) พบว่ามีบริษัทที่ลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร 343 บริษัท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2551 และ 2/2552 ซึ่งสะท้อนได้ว่าบริษัทส่วนใหญ่สนใจลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร ทั้งนี้ มีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 93.48 พันล้านบาท โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรสูงสุดคือ กลุ่มทรัพยากร ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 62.08 ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด |
| . |
|
ภาพรวมด้านการระดมทุน (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายเพิกถอนกิจการ) ในไตรมาส 3/2552 มีมูลค่าระดมทุนรวม 7,230 ล้านบาท โดยเป็นการระดมทุนในตลาดแรกมูลค่ารวม 4,279 ล้านบาท จากบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ 5 บริษัท คือบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (BLA) บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SMT) |
| . |
|
บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (GLOBAL) บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) และ บริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน) (S2) ขณะที่มีการระดมทุนในตลาดรองมูลค่า 2,951 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการระดมทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) |
Thailandindustrycom_official
