เนื้อหาวันที่ : 2009-12-03 09:09:14 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1038 views

มาร์คกร้าว 65 โครงการมาบตาพุดต้องดำเนินการตาม ม.67

อภิสิทธิ์ ชี้ 65 โครงการมาบตาพุดที่ศาลปกครองสูงสุดสั่งชะลอ ต้องทำ อีไอเอ-เอชไอเอ และรับฟังความเห็นประชาชน หวังให้โครงการเดินหน้าต่อได้ ยันรัฐบาลไม่ได้รวบรัด

อภิสิทธิ์ ชี้ 65 โครงการมาบตาพุดที่ศาลปกครองสูงสุดสั่งชะลอ ต้องทำ อีไอเอ-เอชไอเอ และรับฟังความเห็นประชาชน หวังให้โครงการเดินหน้าต่อได้ ยันรัฐบาลไม่ได้รวบรัด

.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 

.

นายกรัฐมนตรีระบุ 65 โครงการมาบตาพุดที่ศาลปกครองสูงสุดสั่งชะลอ  แนวทางที่น่าจะดีที่สุดให้ดำเนินการตามขั้นตอนมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 

.

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งแก้คำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น  และมีคำสั่งชะลอ 65 โครงการของมาบตาพุด ว่า โครงการที่ศาลเห็นว่าไม่มีผลกระทบและสามารถดำเนินการต่อไปได้คงจะช่วยในการลงทุนส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะโครงการที่เคยพูดไว้ว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมให้เดินต่อไปได้ 

.

ส่วน 65 โครงการนั้นเมื่อศาลเห็นว่าเป็นโครงการที่อาจมีผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน แนวทางที่น่าจะดีที่สุดคือให้ดำเนินการตามขั้นตอนมาตรา 67 วรรคสอง  ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550  เสมือนว่าเป็นโครงการที่มีผลกระทบอย่างรุนแรง  แม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลมีความเห็นว่าไม่มีผลกระทบ เนื่องจากยึดเอาผลการศึกษาของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เป็นหลัก

.

ดังนั้น  น่าจะให้โครงการเหล่านี้เดินหน้าและทำเรื่องโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ (อีไอเอ กับเอชไอเอ) และรับฟังความเห็นของประชาชน พร้อมกับให้องค์กรอิสระให้ความเห็นไปในคราวเดียวกัน เพื่อให้สามารถเดินต่อได้  ทั้งนี้ เนื่องจากตัวระเบียบที่จะทำทางคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ที่รัฐบาลตั้งขึ้นมากำลังพิจารณาอยู่ และจะขอความร่วมมือว่าหากขั้นตอนไหนเห็นว่าไม่น่าจะมีข้อโต้แย้งแล้วสามารถดำเนินการได้ทันที  

.

ส่วนที่เหลืออยากให้ได้ข้อยุติจากกรรมการชุดดังกล่าวโดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบกับการดำเนินโครงการต่างๆ ต่อไป ดังนั้น แนวทางนี้ก็น่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในขณะนี้  และเชื่อว่าคณะกรรมการ 4  ฝ่ายคงยอมรับได้ เพราะเป็นการปฏิบัติตามเจตนารมณ์ทุกประการ                

.

ผู้สื่อข่าวถามว่า  จากนี้จะมีการต่อสู้ทางกฎหมายต่อไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า กฎหมายต้องดำเนินไปเพราะคดียังคงอยู่ แต่ทางศาลปกครองได้แถลงเอาไว้ว่าหากมีข้อเท็จจริงใดๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปก็ต้องว่ากันอีกครั้ง 

.

ผู้สื่อข่าวถามว่า  คิดว่าควรจะมีกรอบเวลาที่ชัดเจนให้กรรมการ 4 ฝ่ายหรือไม่เพื่อให้โครงการเดินหน้าได้  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  คิดว่าโดยหลักการประเมินวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหากจำเป็นต้องทำเพิ่มเติมหรือทำใหม่ก็ดี การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ หากไม่มีข้อโต้แย้งอย่างน้อย 2 ขั้นตอนนี้  ตนคิดว่าน่าจะเริ่มต้นได้ทันที 

.

ส่วนการรับฟังความคิดเห็นนั้นยังเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง  ซึ่งยังมีเวลาและยังมีเวลาที่จะขอความเห็นจากองค์กรอิสระเพื่อให้ระเบียบเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย  และมีเวลาที่จะให้คณะกรรมการได้พิจารณาอย่างน้อยอีก 2-3 สัปดาห์ ซึ่งคิดว่าไม่กระทบแน่นอน

.

อย่างไรก็ตามจะพยายามไม่ให้เกิดการเร่งรัดจนเกินไป เพราะเดิมกรรมการขอเวลาไว้ 5-6 สัปดาห์ ซึ่งตนก็ต้องขอดูวิธีการทำงานในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือแม้แต่การรับฟังความคิดเห็นยังใช้เวลาอีกเป็นเดือน คณะกรรมการ ยังไม่ต้องได้ข้อยุติเรื่ององค์กรอิสระจนครบเวลา 1 เดือนก็ยังได้                

.

“รัฐบาลไม่มีเจตนาจะไปรวบรัดแต่อย่างใด เพียงแค่ขอความร่วมมือให้การพิจารณาการประชุมต่างๆ  สามารถได้คำตอบที่รวดเร็ว”  นายกรัฐมนตรีกล่าว          

.

ผู้สื่อข่าวถามว่า  ระหว่างนี้จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอื่นหรือหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  อยู่ที่การคาดการณ์ของคน เพราะก่อนหน้านี้ถือว่าศาลมีคำสั่งระงับ  แต่ตอนนี้ 11 โครงการก็เดินหน้าต่อได้  ส่วนอีก 65 โครงการก็อยู่ในสถานะเดิม  ผู้สื่อข่าวถามว่า  แต่มีหลายโครงการเดินหน้าต่อโดยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล                

.

ผู้สื่อข่าวถามว่า  ถ้ามีการดำเนินการในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเสร็จ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นแล้วจะสามารถจะอุทธรณ์กลับได้หรือสามารถทำได้ในเวลาเดียวกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าทุกโครงการได้ดำเนินการตามที่ทุกฝ่ายเห็นว่าเป็นไปตามมาตรา 67 วรรคสองแล้ว  เข้าใจว่าเรื่องคดีก็จะไม่มีประเด็นอีกต่อไป

.

ผู้สื่อข่าวถามว่า  ได้พูดคุยกับภาคเอกชนบ้างหรือยังหลังศาลมีคำสั่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาคเอกชนมีตัวแทนอยู่ในคณะกรรมการ 4 ฝ่ายอยู่แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมหารือ

.
ที่มา : เว็บไซต์รัฐบาลไทย