ปตท.ชี้ความต้องการใช้ก๊าซเริ่มพุ่ง เหตุเศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว โรงงานเดินเครื่องมากขึ้น คาดความต้องการจะเพิ่มขึ้นถึง 49% หลังคดีมาบตาพุดชัดเจน
ปตท.ชี้ความต้องการใช้ก๊าซเริ่มพุ่ง เหตุเศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว โรงงานเดินเครื่องมากขึ้น คาดความต้องการจะเพิ่มขึ้นถึง 49% หลังคดีมาบตาพุดชัดเจน |
. |
นายเพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ กลับมาเดินเครื่องผลิตมากขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มมากขึ้นด้วย คาดว่าปีนี้จะมีปริมาณความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 3.3% หรือมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 3,573 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และในปี 2553 ก็จะมีปริมาณความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น 10.6% หรือมีปริมาณความต้องการใช้ประมาณ 3,950 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันจากปริมาณความต้องการใช้ก๊าซที่เพิ่มขึ้น |
. |
ปตท.มีแผนจัดหาก๊าซเพิ่มไว้รองรับแล้ว โดยจะมี การรับก๊าซเพิ่มขึ้นจากแหล่งเจดีเอและยูโนแคล 2 และ 3 ส่วนการป้องกันผลกระทบจากการจัดส่งก๊าซนั้น ปตท.ได้มีการสำรวจท่อก๊าซทั่วประเทศรวมไปถึงได้จัดทำแผนเตือนภัยหากเกิดปัญหาต่างๆ ซึ่งยืนยันว่า ปตท.จะจัดหาเชื้อเพลิงโดยไม่ให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับอย่างแน่นอน สำหรับการใช้ก๊าซในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นการใช้เพื่อการผลิตไฟฟ้า ภาคปิโตรเคมี ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง |
. |
ส่วนความต้องการใช้การในปี 2553 คาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นถึง 49% จากภาคปิโตรเคมีหากคดีมาบตาพุดมีความชัดเจน โรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงที่ 6 กับโรงแยกก๊าซอีเทน (ก๊าซหุงต้ม)เดินเครื่องได้ในต้นปี 2553 และคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัว ทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น 16% และภาคขนส่ง (เอ็นจีวี) จะมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น 38% |
. |
ในขณะที่ภาคการผลิตไฟฟ้าจะลดลง 2% เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อไฟฟ้าจากลาวเพิ่มขึ้น โดยโครงการเขื่อนน้ำเทิน 2 จะเข้าระบบในปีหน้า |