สำนักข่าวไทยรายงานข่าว อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ยอมรับจำเป็นต้องโยกเงินกองทุนที่จัดเก็บจากค่าผ่านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) 9,000 ล้านบาท มาก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์ สายใหม่บางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ก่อน หลังจากที่รัฐบาลตัดงบประมาณก่อสร้างโครงการใหม่ไปแล้ว พร้อมตั้งเป้าดึงธนาคารโลกเข้ามาปล่อยเงินกู้ด้วย

นายทรงศักดิ์ แพเจริญ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า โครงการมอเตอร์เวย์เส้นทางบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 200 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 29,000 ล้านบาท ถือเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาถนนหลวงของประเทศภายใน 5 ปีข้างหน้า จากเส้นทางโครงข่ายมอเตอร์เวย์ทั่วประเทศรวม 5 โครงการ ซึ่งในปีงบประมาณ 2550 รัฐบาลยังไม่ได้อนุมัติงบประมาณก่อสร้าง หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติปรับลดวงเงินลงทุนก่อสร้างโครงการใหม่ของทุกหน่วยงานลง โดยกรมทางหลวงได้รับการจัดสรรงบประมาณ 45,179 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าร้อยละ 50 เป็นงบประมาณผูกพันโครงการลงทุนเดิมทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงเห็นว่าการก่อสร้างเส้นทางดังกล่าวถือเป็นความจำเป็นที่จะช่วยให้การคมนาคมขนส่งของประเทศมีความคล่องตัว ลดเวลาในการเดินทาง และสูญเสียพลังงานในระบบเศรษฐกิจได้มาก อีกทั้งจำเป็นต้องเดินหน้าก่อสร้างโครงการดังกล่าวต่อไป หลังจากที่โครงการมีความคืบหน้าในเรื่องการออกแบบรายละเอียดและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปแล้ว กรมทางหลวงจึงจะโยกเงินกองทุนที่ได้จากการจัดเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ ซึ่งปัจจุบันมีเงินกองทุนอยู่ประมาณ 9,000 ล้านบาท มาดำเนินการก่อน ซึ่งสามารถใช้จ่ายในวงเงินค่าเวนคืนที่ดินในสายทางประมาณ 2,000 บาท และในอนาคตกรมทางหลวงจะเสนอให้รัฐบาลอนุมัติวงเงินก่อสร้างอีกครั้งในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป

นอกจากนี้ ในแนวทางจัดหาวงเงินก่อสร้างที่สามารถกู้ยืมเงินจากธนาคารระหว่างประเทศได้ด้วยนั้น ขณะนี้กรมทางหลวงอยู่ระหว่างเจรจาแผนการกู้เงินกับธนาคารโลกอยู่ ซึ่งหากธนาคารโลกสนใจให้กู้เงินในโครงการ กรมทางหลวงก็จะนำเสนอแผนการกู้เงินลงทุนไปยังสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังอีกครั้ง

สำหรับเส้นทางมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา เป็น 1 ใน 5 โครงการพัฒนาทางมอเตอร์เวย์ โดยที่เหลือจะเป็นเส้นทางทั่วประเทศ ประกอบด้วย บางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี เส้นทาง นครปฐม-สมุทรสาคร-ชะอำ เส้นทาง ชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด และเส้นทางบางปะอินและนครสวรรค์ โดยตามแผนทั้งหมดจะเป็นการพัฒนาโครงการระหว่างปี 2550-2554 วงเงินก่อสร้างรวมทั้ง 5 โครงการ 122,550 ล้านบาท.