เนื้อหาวันที่ : 2006-12-14 10:01:05 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 923 views

โฆสิต เดินสายเยือนญี่ปุ่นดึงทุกค่ายรถร่วมแผนอีโคคาร์

โฆสิต เผยการเยือนญี่ปุ่น สานความร่วมมือเพิ่มขีดความสามารถบุคลากร ยานยนต์ไทย พร้อมนำเสนอกรอบการลงทุนในรถประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ เน้นเปิดกว้างรถยนต์ทุกค่ายผลิต คาดชัดเจนภายในเดือนมีนาคม 2550 นี้ มั่นใจแผนผลิตรถอีโคคาร์จะเป็นรถแห่งอนาคตที่ตลาดภูมิภาคอาเซียนต้องการ

โฆสิต เผยผลการเดินทางเยือนญี่ปุ่น สานความร่วมมือเพิ่มขีดความสามารถบุคลากร       ยานยนต์ไทย พร้อมนำเสนอกรอบการลงทุนในรถประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ เน้นเปิดกว้างรถยนต์ทุกค่ายผลิต คาดสรุปข้อเสนอขั้นสุดท้ายชัดเจนภายในเดือนมีนาคม 2550 นี้ มั่นใจแผนผลิตรถอีโคคาร์จะเป็นรถแห่งอนาคตที่ตลาดภูมิภาคอาเซียนต้องการ

.

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นว่า การเดินทางไปครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะร่วมมือกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่นหรือไจก้า และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทร ในด้านการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยในช่วงแรกญี่ปุ่นจะส่งผู้ทรงคุณวุฒิจากญี่ปุ่นมาให้การอบรมบุคลากรไทย เพื่อยกระดับความสามารถในด้านเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ไทยให้สูงขึ้น

.

นอกจากนี้ได้มีการหารือถึงกรอบการลงทุนเพื่อส่งเสริมโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐาน สากล หรืออีโคคาร์ กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ 6 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทนิสสัน มอเตอร์ บริษัทฮอนด้า    มอตอร์ บริษัทมาสด้า มอเตอร์ บริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ บริษัทซูซูกิ มอเตอร์ และบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ โดยไทยได้นำเสนอแนวทางในการพัฒนารถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ ไว้ 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1.)มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 5 ลิตร:100 กิโลเมตร  2.)ผลิตได้จำนวน 100,000 คันในปีที่ 5  3.)ผลิตรถที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล

.

โดยล่าสุดมีบริษัทรถยนต์ชั้นนำ 2-3 ค่าย สนใจที่จะลงทุนโครงการรถอีโคคาร์ เนื่องจาก เห็นว่าสอดคล้องกับแผนการตลาดที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มยื่นข้อเสนอเบื้องต้นได้ภายในสิ้นปี 2549 และยื่นข้อเสนอในขั้นสุดท้ายภายในเดือนมีนาคม ปี 2550 นี้ โดยได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน [บีโอไอ] พิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบ และเปิดกว้างให้ค่ายรถยนต์ทุกค่ายที่สนใจลงทุนในโครงการดังกล่าวอย่างเท่าเทียมกัน  นายโฆสิต กล่าว

.

นายโฆสิต กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงอุตสาหกรรมมั่นใจว่ารถยนต์อีโคคาร์จะไม่ใช่รถที่ผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศเท่านั้น แต่ในอนาคตจะเป็นรถที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นเป็นลำดับทั้งภายในประเทศและในแถบภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากขณะนี้นโยบายประหยัดพลังงานและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นประเด็นที่ประเทศต่างๆทั่วโลกให้ความสำคัญ และจากการหารือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทุกแห่ง ทำให้มั่นได้ว่าประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจให้เป็นฐานการผลิตสำคัญในอีก 10 ปีข้างหน้า