เนื้อหาวันที่ : 2009-10-07 11:39:04 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 632 views

"FTA อาเซียน-อินเดีย" อีกหนึ่งทางเลือกในแดนภารตะ

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า ภายใต้กรอบ FTA ไทย-อินเดีย (TIFTA) มีกลุ่มสินค้าเร่งลดภาษี (Early Harvest) จำนวน 82 รายการ ที่ไทยได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดภาษี ซึ่งขณะนี้สินค้าในกลุ่มนี้ทั้ง 82 รายการ ไทยได้สิทธิในการลดภาษีจากอัตราภาษีปกติเหลือ 0 ทั้งหมดแล้ว 

.

โดยในครึ่งปีแรกของปี 2552 (ม.ค. - มิ.ย.) การค้าระหว่างไทย-อินเดีย มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 2,093.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าอินเดียมูลค่า 656 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 407 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 

.

ในครึ่งปีแรกของปี 2552 กรมการค้าต่างประเทศได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Form FTA) เพื่อนำไปลดภาษีขาเข้าประเทศอินเดีย จำนวน 2,823 ฉบับ มีมูลค่า 146.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 

.

ซึ่งการใช้สิทธิฯ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 73 ของการส่งออกภายใต้ FTA (มูลค่า 200.82 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) สินค้าสำคัญที่มีการส่งออกและได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีของประเทศอินเดีย ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ อะลูมิเนียมเจือ เม็ดพลาสติก เครื่องรับโทรทัศน์สี และเครื่องจักรการเกษตร เป็นต้น

.

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้มีการลงนามในกรอบอาเซียน-อินเดีย แล้ว ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ในต้นปี 2553 นี้ โดยมีสินค้าจำนวนมากกว่า 4,700 รายการที่ได้รับสิทธิ จึงเป็นโอกาสดีของสินค้าจำนวนมากที่ยังไม่ได้สิทธิทางภาษีจากกรอบ FTA ไทย-อินเดีย จะมีช่องทางเลือกในการใช้สิทธิได้อีก 1 ช่องทาง สินค้าสำคัญของไทยที่ได้ประโยชน์จากกรอบนี้ ได้แก่

.

เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เครื่องสำอาง อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนและส่วนประกอบเครื่องยนต์ เป็นต้น กรมการค้าต่างประเทศจะเร่งให้มีการจัดสัมมนาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกรอบ FTA อาเซียน-อินเดีย เพื่อให้ผู้ส่งออกและผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมในการส่งออกและขอใช้สิทธิฯ ในกรอบ FTA ซึ่งคาดว่ากรอบ FTA อาเซียน-อินเดียนี้จะส่งผลให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอินเดียเพิ่มมากยิ่งขึ้น