เนื้อหาวันที่ : 2009-10-02 09:54:22 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 555 views

เบรกโครงการมาบตาพุดลงทุนหด นลท.เสียขวัญ แผนธุรกิจเดี้ยง

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า กรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ระงับโครงการที่มาบตาพุด จะกระทบต่อบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ ที่ประกอบธุรกิจในมาบตาพุด และการลงทุนจากต่างชาติโดยตรง (FDI) ทั้งนี้มองว่ากรณีดังกล่าวก็น่าจะมีผลต่อบรรยากาศการลงทุน ในด้านความกังวลของนักลงทุนบ้าง แต่โดยหลักแล้วเชื่อว่าผลกระทบน่าจะไปอยู่ที่การลงทุนจากต่างชาติโดยตรงมากกว่า

.

สำหรับ บจ.ที่ได้รับผลกระทบ เช่น บริษัทที่ประกอบธุรกิจปิโตรเคมี เป็นต้น โดยหลังจากที่มีคำสั่งศาล บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับผลกระทบ ก็ได้แจ้งความคืบหน้ามายังตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วว่า อยู่ระหว่างหาวิธีแก้ไขเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเมื่อ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้ระงับการดำเนินกิจกรรมของโรงงานอุตสาหกรรม 76 โครงการ มูลค่าราว 3.3 แสนล้านบาท

.

ในบริเวณพื้นที่ ต.มาบตาพุด อ.บ้านฉาง จ.ระยอง และพื้นที่ใกล้เคียง จ.ระยอง เป็นการชั่วคราว กรณีที่มีผู้ฟ้องหน่วยงานภาครัฐที่ออกคำสั่งไม่ถูกต้องตามขั้นตอน โดยอนุมัติให้โครงการเหล่านั้นดำเนินกิจกรรมได้ โครงการที่ถูกสั่งระงับส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม บมจ.ปตท. (PTT) และ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) รวมถึงโครงการของ บมจ.จีสตีล (GSTEEL) และ บมจ.ไทยน๊อคซ์ สแตนเลส (INOX) เป็นต้น

.

นางภัทรียา กล่าวว่า สำหรับภาวะการลงทุนในช่วงนี้ ยังคงเป็นไปตามพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ทั้งในส่วนของจีดีพี ดัชนีการผลิตและการจ้างงาน อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้นมา 60% แล้ว ดังนั้นหากจะเข้ามาลงทุน ผู้ลงทุนคงต้องศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ

.

"เราก็เป็นห่วงในเรื่องของการลงทุน ว่านักลงทุนคงจะกังวลอยู่เหมือนกัน แต่หลักๆ แล้ว ส่วนใหญ่น่าจะไปกระทบกับ FDI มากกว่า ซึ่งตอนนี้เท่าที่ประเมินทุกอย่างก็ยังไม่ชัดว่าธุรกิจในมาบตาพุดจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหนจากคำสั่งควบคุมเขตมลพิษ เพราะไม่รู้ว่าเกิดขึ้นชั่วคราวหรือระยะยาวแค่ไหน"

.
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง