นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยแผนพัฒนาที่ราชพัสดุเป็นเชิงพาณิชย์ ภายใต้โครงการลงทุนไทยเข้มแข็ง 2555 ของรัฐบาล ว่า กรมธนารักษ์ได้ของบประมาณเพื่อนำไปลงทุนพัฒนาที่ราชพัสดุเป็นเชิงพาณิชย์จำนวน 4 แปลง เป็นเงินรวมประมาณ 7 พันล้านบาท |
. |
ประกอบด้วย โครงการพัฒนาอาคารออฟฟิศบริเวณถนนพหลโยธินวงเงิน 2.2 พันล้านบาท โครงการก่อสร้างที่พักข้าราชการบริเวณย่านสะพานควายวงเงินเกือบ 1 พันล้านบาท โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่จังหวัดภูเก็ตวงเงิน 3.7 พันล้านบาท และโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่แหลมไม้แก่น เกาะสมุย วงเงินกว่า 1 พันล้านบาท |
. |
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 โครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่สามารถทำได้ทันทีและแล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดหรือภายใน 3 ปี หากได้รับงบประมาณซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการลงทุนไทยเข้มแข็ง โดยขณะนี้ รัฐบาลยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดโครงการเพื่ออนุมัติ ขณะที่ที่ปรึกษาของโครงการซึ่งกรมธนารักษ์ได้ว่าจ้างก็อยู่ระหว่างการประเมินโครงการ ทั้งในแง่ผลตอบแทนเชิงพาณิชย์ และรูปแบบโครงการในรายละเอียด |
. |
ทั้งนี้ หากว่ากรมธนารักษ์ได้รับงบประมาณไม่เต็มจำนวนที่ขอก็จะต้องทำการระดมทุนจากแหล่งเงินอื่น เพื่อนำมาก่อสร้าง เพราะถือว่าเป็นโครงการที่มีศักยภาพในการพัฒนา เป็นเชิงพาณิชย์ เพื่อเป็นแหล่งรายได้ของรัฐบาลอีกทางหนึ่ง หรืออาจจะใช้วิธีปรับขนาดโครงการลงทุนลงมาให้อยู่ระดับที่เหมาะสมกับเม็ดเงินลงทุน |
. |
สำหรับโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณหมอชิต ซึ่งมีความล่าช้ามานานนั้น ขณะนี้ได้รับข้อเสนอจากกรุงเทพมหานคร ว่า ต้องการเข้าพัฒนาพื้นที่บริเวณดังกล่าวเพื่อทำเป็นอู่จอดรถและซ่อมบำรุง ซึ่งกรมธนารักษ์ได้ทำเรื่องเสนอไปยังกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาตั้งที่ปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังติดปัญหาฟ้องร้องของคู่สัญญา เดิม ส่งผลต่อการเข้าใช้พื้นที่ |
. |
ทั้งนี้ บริษัทซันเอสเตท ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทบางกอกเทอร์มินอล เป็นคู่สัญญากับกรมธนารักษ์ในการเข้าพัฒนาพื้นที่ราชพัสดุบริเวณหมอชิต แต่ไม่สามารถเข้าพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวได้ เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความว่า การลงทุนดังกล่าวถือว่าเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน ทำให้โครงการดังกล่าวต้องถูกระงับไว้ก่อน ทำให้บริษัทบางกอกเทอร์มินอล ได้ดำเนินการฟ้องร้องกรมธนารักษ์เพื่อเรียกค่าเสียหาย |
. |
"ขณะนี้บริษัทดังกล่าวได้ยกเลิกการฟ้องร้องดังกล่าวแล้ว แต่เราก็ต้องเสนอให้มีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา เพื่อมาประเมินการใช้พื้นที่ดังกล่าวว่า มีความเหมาะสมที่จะพัฒนาในรูปแบบใด และเสนอว่าควรจะให้มีการเปิดประมูลใหม่ หรือให้โอกาสคู่สัญญาเก่าเป็นผู้พัฒนาพื้นที่ต่อไป สำหรับการพัฒนาพื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนนั้น ขณะนี้ได้รับนโยบาย จากกระทรวงการคลังว่าให้ชะลอโครงการดังกล่าวไปก่อน" นายเทวัญ กล่าว |
. |
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง |