"ชาญชัย" เดินสายจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุน พร้อมเปิดสำนักงานบีโอไอ ที่สวีเดน ชูศักยภาพไทยศูนย์กลางขยายตลาดใหญ่เม็ดเงินกว่า 12 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
|
"ชาญชัย" เดินสายจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุน พร้อมเปิดสำนักงานบีโอไอ ที่สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ชูศักยภาพไทยศูนย์กลางขยายตลาดใหญ่เม็ดเงินกว่า 12 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี เผยผลหารือ IKEA Group ยังยืนยันเดินหน้าลงทุนในไทย ภายในปี 54 ด้านบีโอไอเผยสำนักงานแห่งใหม่หวังขยายกลุ่มทุนยุโรปลงทุนในไทยเพิ่มร้อยละ 15 |
| . |
|
|
|
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม |
| . |
|
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยระหว่างการจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุน และเปิดสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนแห่งที่ 13 ณ กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดนระหว่างวันที่ 23-26 กันยายน 2552 ว่า ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในสตอกโฮล์ม หลายรายสนใจข้อมูลและสอบถามถึงการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จึงได้มอบให้บีโอไอใช้โอกาสนี้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการทราบถึงโอกาสของการลงทุนในไทยโดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อจำหน่ายในภูมิภาคเอเชีย จากการใช้ผลของกรอบความตกลงการค้าเสรีที่ไทยมีกับนานาประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย จีน และ ญี่ปุ่น ที่จะช่วยเจาะกลุ่มตลาดที่มีประชากรกว่า 3,000 ล้านคน และมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศรวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 12 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ |
| . |
|
นอกจากนี้ ยังได้ย้ำถึงศักยภาพของไทยที่เริ่มเห็นผลสัมฤทธิ์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ขณะนี้ไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดทางเศรษฐกิจมาแล้ว จากสัญญาณที่ดีหลายอย่าง เช่น อัตราการว่างงานที่ต่ำลง การเพิ่มขึ้นของการผลิตสินค้าส่งออก อัตราการใช้กำลังการผลิต การนำเข้าวัตถุดิบและชิ้นส่วน เป็นต้น โดยคาดว่าในไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจไทยจะเริ่มมีอัตราการเติบโตของจีดีพีเป็นบวกได้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า |
| . |
|
สำหรับการหารือกับผู้บริหารของ IKEA Group ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ดำเนินธุรกิจเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ในสวีเดน ปัจจุบัน มีสาขาและแฟรนไชส์ทั้งหมด 175 สาขา ใน 31 ประเทศทั่วโลก และมีซัปพลายเออร์มาก ถึง 1,800 แห่งทั้งในยุโรปและเอเชีย พบว่าบริษัทให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และยืนยันถึงแผนที่จะเข้ามาตั้งศูนย์เฟอร์นิเจอร์และศูนย์ตกแต่งบ้าน 'ไอเกียสโตร์' (IKEA STORE) แห่งแรกในเมืองไทย ตั้งอยู่บนถนนบางนาตราด กม.9 ตัดถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก โดยใช้วัตถุดิบที่สำคัญ คือ ไม้ยางพาราในประเทศ ซึ่งเมื่อศูนย์เฟอร์นิเจอร์สร้างเสร็จภายในปี 2554 นี้ จะทำให้เป็นศูนย์เฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย |
| . |
|
ในขณะที่การพบปะกับผู้บริหาร Ericsson ซึ่งถือเป็นบริษัทฯ ชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารอย่างเต็มรูปแบบและครบวงจรที่สุด ปัจจุบันบริษัทถือครองลิขสิทธิ์ทางด้านงานโทรคมนาคมสื่อสารกว่า 23,000 ลิขสิทธิ์ ได้สอบถามถึงความคืบหน้าการส่งเสริมการลงทุน และทิศทางของนโยบายรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความมั่นใจในการเน้นย้ำถึงการผลักดันให้เศรษฐกิจไทย?ก้าวสู่สังคมแห่งการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ หรือ ครีเอทีฟ อีโคโนมี (Creative Economy) ซึ่งจะเป็นฐานความร่วมมือส่งเสริมซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดีในอนาคต |
| . |
|
"สตอกโฮล์มเป็นศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดของกลุ่มสแกนดิเนเวียที่มีบริษัทขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพและความก้าวหน้าในเทคโนโลยี ซึ่งหากไทยสามารถกระตุ้นให้การลงทุนดังกล่าวเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้จะก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการของไทยได้ในอนาคตอีกมาก" นายชาญชัย กล่าว |
| . |
|
นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ผู้ประกอบการให้ความสนใจกับการเปิดสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนที่กรุงสตอกโฮล์ม เป็นอย่างยิ่ง โดยมั่นใจว่าสำนักงานแห่งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญของการให้ข้อมูล คำปรึกษาเรื่องการลงทุนแก่ผู้ประกอบการของไทยในสตอกโฮล์ม รวมถึงช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจากกลุ่มสแกนดินีเวียในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น |
| . |
|
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า สำนักงานสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เป็นสำนักงานแห่งที่ 13 ของบีโอไอ และเป็นแห่งที่ 3 ในทวีปยุโรป หลังจากที่ผ่านมา บีโอไอได้มีสำนักงานในทวีปยุโรปแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และนครแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี |
| . |
|
โดยสำนักงาน ณ กรุงสตอกโฮล์ม จะเป็นสำนักงานแห่งสุดท้ายตามเป้าหมายของบีโอไอ ที่จะเปิดสำนักงานส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศให้ครบ 6 แห่งภายในปี 2552 หลังจากที่บีโอไอได้เปิดสำนักงานในต่างประเทศมาตั้งแต่ปลายปี 2551 จนถึงปัจจุบันสำนักงานได้ดำเนินการเปิดใหม่แล้วทั้ง 5 แห่ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การลงทุนจากประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น การลงทุนจากจีน เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว เกาหลีใต้ที่มีการขอรับส่งเสริมการลงทุน เพิ่มร้อยละ 60 เป็นต้น และคาดว่าการจัดตั้งสำนักงาน ณ กรุงสตอกโฮล์มครั้งนี้ จะทำให้การลงทุนจากกลุ่มสแกนดินีเวีย เช่น นอร์เวย์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เป็นต้น เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ในปี 2553 |
| . |
|
"คาดว่าสำนักงานสตอกโฮล์มนี้ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจากกลุ่มสแกนดินีเวียในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย เช่น เหล็ก ยานยนต์ ไอซีที สิ่งแวดล้อม และป่าไม้" เลขาธิการบีโอไอกล่าว |
| . |
|
จากสถิติการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ ตั้งแต่ปี 2513 ถึง เดือนสิงหาคม 2552 มีบริษัทสวีเดนได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอรวม 83 โครงการ เงินลงทุนทั้งสิ้น 22,643 ล้านบาทหรือประมาณ 5,000 ล้านโครน่า โดยบริษัทขนาดใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว อาทิ บริษัท เอบีบี (ABB), บริษัท มอลลิเก้ เฮลท์แคร์, บริษัท อิเลคโทรลักซ์, บริษัท อีก้า เคมิคัลส์, บริษัท เพอร์สตอร์ป และบริษัทวอลโว่ เป็นต้น |
Thailandindustrycom_official
.gif)
