ทีทีอาร์ เผยมีบริษัทรถยักษ์ใหญ่ 3 รายของสหรัฐยืนยันกับ อภิสิทธิ์ จะลงทุนในไทยเพิ่ม มูลค่าไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน ชี้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น คาดปีหน้าศก.ขยายตัว 3%
ทีทีอาร์ เผยมีบริษัทรถยักษ์ใหญ่ 3 รายของสหรัฐยืนยันกับ อภิสิทธิ์ จะลงทุนในไทยเพิ่ม มูลค่าไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน ชี้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น คาดปีหน้าศก.ขยายตัว 3% |
. |
นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) |
. |
นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) กล่าวระหว่างร่วมแถลงข่าวกับคณะนายกรัฐมนตรีผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ จากสหรัฐ มายังศูนย์แถลงข่าว ทำเนียบรัฐบาล ว่า มีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์ 3 รายได้ยืนยันกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในเวทีที่กระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้จัดให้นายกฯพบกับนักลงทุนระดับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอีกรายละไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท |
. |
ได้แก่ บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี, บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และบริษัทไครสเลอร์ รวมทั้งยังมีบริษัทโคคาโคลา อีก 1,000 ล้านบาท ขณะที่บริษัทคาร์กิลล์ ได้สนใจที่จะร่วมลงทุนจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าเกษตรในภูมิภาคนี้ เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยด้านอาหารร่วมกับไทย |
. |
ทั้งนี้ บรรยากาศของนักลงทุนที่เข้าร่วมในงานนายกฯพบปะนักลงทุนระดับซีอีโอครั้งนี้ส่วนใหญ่ได้ลงทุนในไทยอยู่แล้ว และเมื่อได้พบกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง ที่ได้ส่งสัญญาณให้เห็นว่าให้ความสำคัญและอยากเห็นการเข้ามาลงทุนในไทย ยิ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจเพิ่มขึ้น |
. |
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ ได้สอบถามนโยบายของรัฐบาล และมองว่าแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง จะทำให้เกิดโอกาสในการขยาย ธุรกิจและการลงทุนได้ โดยเฉพาะทางด้านสินค้าเกษตร ขณะเดียวกันนักลงทุนบางรายได้นำเสนอปัญหาเกี่ยวกับปัญหาในการจัดเก็บภาษีศุลกากร การจดทะเบียน การขออนุญาตทำงานในไทย ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าต่อไปจะสามารถใช้บริการจากศูนย์ประสานการบริการนักลงทุนหรือศูนย์โอเอสโอเอส ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะทำให้สะดวกมากขึ้น |
. |
ส่วนกรณีที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้คาดการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยในปี 52 จะหดตัวเพิ่มมากขึ้นจนติดลบ 3.2% ซึ่งต่ำที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และคาดว่าในปีหน้าจะขยายตัว 3% โดยเป็นการฟื้นตัวในลักษณะวีเชฟ ว่า อยากเห็นตัวเลขที่ชัดเจนของเอดีบีที่บอกว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าที่สุดก่อน |
. |
เพราะช่วงที่รัฐบาลแถลงผลงาน 6 เดือน ได้นำอัตราขยายตัวของเศรษฐกิจไทย มาเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคก็ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยประเทศที่ระบบเศรษฐกิจเปิดมาก ๆ อย่างสิงคโปร์ในบางไตรมาสติดลบเป็นเลขสองหลัก เพราะฉะนั้นเวลาฟื้นตัวจะเร็วกว่า เพราะลงไปต่ำมาก หรือประเทศที่ไม่ได้พึ่งพาการส่งออกมากนัก อย่างอินโดนีเซีย ภาวะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบน้อย การฟื้นตัวก็ไม่ชัดมาก เพราะเศรษฐกิจค่อนข้างคงที่ |
. |
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า จากการเข้าร่วมกิจกรรมสร้างความเชื่อมั่นประเทศไทย พบว่า ผู้ลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย และส่วนหนึ่งได้กลับเข้ามาลงทุนแล้ว โดยคาดว่ามีแนวโน้มที่จะนำเงินกลับเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ลงทุนสนใจถามเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็ง |
. |
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ |