เนื้อหาวันที่ : 2006-12-06 10:51:12 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 847 views

ส.อ.ท.เผย แรงงานภาคอุตสาหกรรมขาดแคลนหนักปี 2550

ส.อ.ท.เผยแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยังขาดแคลนหนักในปี 2550 ส่งผลให้การดึงตัวแย่งคนงานยังมีต่อเนื่อง เฉพาะกลุ่มไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ฯ และสิ่งทอขาดกลุ่มละ 50,000 คนแล้ว กลุ่มไฟฟ้าฯ นัดถกสัปดาห์หน้าวางแผนรับมือ ขณะที่ปี 2550 แนวโน้มค่าจ้างประจำปีจะปรับเฉลี่ยร้อยละ 5-6

สำนักข่าวไทยรายงานข่าว ส.อ.ท.เผยแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยังขาดแคลนหนักในปี 2550 ส่งผลให้การดึงตัวแย่งคนงานยังมีต่อเนื่อง เฉพาะกลุ่มไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ฯ และสิ่งทอขาดกลุ่มละ 50,000 คนแล้ว กลุ่มไฟฟ้าฯ นัดถกสัปดาห์หน้าวางแผนรับมือ ขณะที่ปี 2550 แนวโน้มค่าจ้างประจำปีจะปรับเฉลี่ยร้อยละ 5-6

.

นายขัตติยา ไกรกาญจน์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าทางกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะประชุมกลุ่ม ซึ่งจะมีวาระหารือเรื่องปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ปี 2550 ภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยังคงต้องเผชิญกับการขาดแคลนแรงงานทุกระดับ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ล่าสุดขาดแรงงานรวมกว่า 50,000 คน

.

เท่าที่ทราบตอนนี้เกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีการขาดแคลนแรงงานเช่นกัน อย่างสิ่งทอก็ขาด 50,000 คน และยังไม่รวมกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีก ซึ่งถือเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างมาก เราก็ได้พยายามเสนอให้รัฐบาลทราบมาเป็นระยะในการแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งโชคดีปีหน้าเศรษฐกิจเราไม่ได้ขยายมากนักหากไม่เช่นนั้นคงลำบากกว่านี้ นายขัตติยา กล่าว

.

ทั้งนี้จากการขาดแคลนแรงงานที่ยังมีอยู่คาดว่าจะมีผลให้การดึงแรงงานในแต่ละโรงงานยังมีสูงเช่นเดียวกับปีนี้ที่แต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมก็มักจะไปดึงคนจากอุตสาหกรรมที่ใกล้เคียงกันมา ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะต้องหาแนวทางในการที่จะพัฒนาแรงงานที่มีอยู่ให้มากขึ้นเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในระยะยาว

.

นายขัตติยา กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่เกิดขึ้นระดับล่างพบว่า มีปัญหาการย้ายงานบ่อยจนทำให้ภาคอุตสาหกรรมเองก็ไม่ต้องการจะฝึกฝนมากนักเพราะถูกดึงตัว ขณะที่ระดับกลางที่จบระดับอาชีวะศึกษา ก็ไม่ทำงานโดยไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีทั้งที่ในระดับอาชีวะนั้นจะเป็นช่วงที่เข้ามาทำงานและคุ้มค่าการกับที่ภาคอุตสาหกรรมจะนำไปฝึกอบรมให้ทำงานได้เลย ขณะที่ผู้ที่จบปริญญาจบมากลับพบว่าทำงานไม่ได้ทันทีต้องไปฝึกกันใหม่จึงทำให้ทั้งระบบมีปัญหาหมด

.

ด้านนายสมพงศ์ นครศรี รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ปี 2550 การปรับเงินเดือนค่าจ้างประจำปีที่ประเมินเบื้องตนบริษัทที่มีผลประกอบการค่อนข้างดี เฉลี่ยน่าจะทำการปรับขึ้นประมาณร้อยละ 5-6 โดยคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อในระดับร้อยละ 3.8 และการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในระดับร้อยละ 4 ส่วนตลาดแรงงานใหม่ในปีหน้ายังมีไม่มากนัก

.

ขณะที่ระดับแรงงานที่ว่างงานจะมีอยู่ประมาณ 500,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.4 ของคนวัยทำงาน สำหรับปัญหาการขาดแคลนแรงงานนั้นผู้ประกอบการควรจะพิจารณาการเพิ่มผลผลิต โดยการฝึกอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมเพื่อให้การผลิตต่อหน่วยมากขึ้นและทำการปรับเงินเดือนตามความสามารถน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะหากไม่ดำเนินการไว้คาดว่าปัญหานี้จะกลายเป็นปัญหาที่แก้ไขลำบากในอนาคตและท้ายสุดต้องพึ่งแรงงานต่างด้าวมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อไทย.