ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรเงินบาท โดยเฉพาะในบัญชีของผู้มีถิ่นที่อยู่ต่างประเทศ หรือนอนเรสสิเดนท์ หลังจากพบว่า ต่างชาติใช้ช่องทางนี้ในการเก็งกำไรเงินบาทเป็นจำนวนมาก โดยห้ามสถาบันการเงินซื้อขายตราสารหนี้ทุกประเภททุกอายุสัญญา
สำนักข่าวไทยธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรเงินบาท โดยเฉพาะในบัญชีของผู้มีถิ่นที่อยู่ต่างประเทศ หรือนอนเรสสิเดนท์ หลังจากพบว่า ต่างชาติใช้ช่องทางนี้ในการเก็งกำไรเงินบาทเป็นจำนวนมาก โดยห้ามสถาบันการเงินซื้อขายตราสารหนี้ทุกประเภททุกอายุสัญญาในลักษณะ Sell Buy Back และกำหนดให้การไถ่ถอนเงินลงทุนของต่างชาติทำได้เฉพาะกรณีที่ถือครองตราสารหนี้เกิน 6 เดือน ขณะเดียวกัน ก็เดินหน้าศึกษาแนวคิดการเก็บภาษีเงินทุนระยะสั้น หากมาตรการต่าง ๆ ไม่ได้ผล ด้าน รมว.คลัง-รมว.พาณิชย์ มั่นใจ ธปท. มีมาตรการดูแลเงินบาทได้ |
. |
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีเงินทุนต่างชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐไหลเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทย โดยเป็นการลงทุนในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อสถานการณ์เหมาะสมก็มีการขายตราสารดังกล่าวเพื่อนำเงินออกไป ซึ่งนักลงทุนได้ผลตอบแทนทั้งการลงทุนในตราสารหนี้ และค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีความผันผวนและกระทบต่อเศรษฐกิจการเงินของประเทศ ธปท. จึงมีหนังสือลงวันที่ 4 ธันวาคม ขอความร่วมมือสถาบันการเงินไม่ให้สถาบันการเงินซื้อขายตราสารหนี้ทุกประเภททุกอายุสัญญากับผู้มีถิ่นที่อยู่ต่างประเทศ (นอนเรสสิเดนท์) ในลักษณะการขายโดยมีสัญญาซื้อคืน (Sell Buy Back) โดย ธปท. พบว่ามีนักเก็งกำไรใช้ช่องทางดังกล่าวเข้ามาเก็งกำไรเงินบาทค่อนข้างมาก โดยพบว่าในช่วงต้นปี 2549 มีเงินในบัญชีนอนเรสสิเดนท์ ประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มเป็น 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในกลางเดือนพฤศจิกายน |
. |
นอกจากนี้ ธปท. ก็ขอความร่วมมือธุรกิจเอกชนให้หลีกเลี่ยงการออกตราสารหนี้ระยะสั้น หรือหุ้นกู้ ที่ขายให้กับนอนเรสสิเดนท์ โดยพบว่าเอกชนมีการออกตราสารหนี้ระยะสั้นและหุ้นกู้เพิ่มขึ้นมาก โดยมียอดตราสารหนี้คงค้าง 200,000 ล้านบาท และหุ้นกู้อีก 600,000 ล้านบาท รวม 800,000 ล้านบาท และขอให้สถาบันการเงินหลีกเลี่ยงการขายตราสารหนี้ระยะสั้นและหุ้นกู้เอกชนให้กับนอนเรสสิเดนท์ |
. |
นางธาริษา กล่าวด้วยว่า ธปท. ได้ขอความร่วมมือสถาบันการเงินรับการไถ่ถอนเงินลงทุนจากนอนเรสสิเดนท์ ในการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง ที่ถือครองเกิน 3 เดือนเท่านั้น รวมทั้ง ธปท. ได้ปรับมาตรการป้องปรามการเก็งกำไรเงินบาทในส่วนที่สถาบันการเงินกู้ยืมเงินบาทจากนอนเรสสิเดนท์ และมีสัญญาขายคืนกรณีที่ไม่มีธุรกรรมรองรับ จากเดิมที่กำหนดอายุเกินสัญญา 3 เดือน เป็นสัญญาเกิน 6 เดือน เพื่อให้เป็นการกู้ยืมในระยะยาวขึ้น |
. |
มาตรการที่ออกมาเพื่อลดความผันผวนในตลาดเงินตราต่างประเทศ และเชื่อว่าจะทำให้เงินบาทมีความผันผวนลดลง โดย ธปท. ได้ระมัดระวังให้มีผลกระทบต่อตลาดพันธบัตรและตลาดตราสารหนี้ให้น้อยที่สุด ซึ่งจะติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด แต่หากจำเป็น ธปท. ก็พร้อมพิจารณาการออกมาตรการเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่ง ธปท. ได้เตรียมมาตรการเสริมสร้างสภาพคล่องให้ตลาดไว้อย่างเพียงพอ จึงมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาต่อตลาดเงินโดยภาพรวม นางธาริษา กล่าว |
. |
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า เงินบาทที่แข็งอย่างรวดเร็ว เป็นผลจากปัจจัยภายนอก เพราะเงินดอลลาร์อ่อนค่า และเศรษฐกิจไทยรวมทั้งในภูมิภาคมั่นคง ทำให้เงินทุนในรูปดอลลาร์เข้ามาลงทุนในเอเชีย การที่ ธปท. ออกมาตรการดูแลเงินทุนนำเข้าระยะสั้น เพื่อลดความผันผวนของเงินบาท เพราะเงินหมุนเร็วทำให้เงินบาทผันผวนมาก |
. |
ด้านนายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนและสินเชื่อ ธปท. กล่าวว่า ธปท. กำลังศึกษามาตรการการเก็บภาษีนำเข้าเงินทุนระยะสั้นเหมือนที่ในต่างประเทศใช้อยู่ หากว่าการสกัดกั้นการเก็งกำไรเงินบาทไม่ได้ผล ซึ่งยอมรับว่ามีผลกระทบค่อนข้างมาก จึงจะต้องมีการหารือและได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังก่อน |
. |
ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวหลังหารือกับนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า ทางกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นคณะกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงจะมีการหารือในที่ประชุมร่วมกับ ธปท. เร็ว ๆ นี้ ขณะที่ ธปท. ก็จะมีมาตรการออกมาดูแลผู้ประกอบการ และเชื่อมั่นว่าจะสามารถดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ามากเกินไป และเชื่อมั่นว่าเอกชนจะสามารถปรับตัวได้ |
. |
นายเกริกไกร กล่าวว่า การหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เป็นการหารือกันเพียงเล็กน้อย แต่กระทรวงพาณิชย์มีแนวทางศึกษาการช่วยเหลือผู้ประกอบการเป็นรายกลุ่ม แต่ในส่วนของการค้ากับสหรัฐ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เพราะสัดส่วนการค้ากับสหรัฐลดลงเหลือร้อยละ 16-17 ของตลาดรวม หลังจากได้พยายามกระจายตลาดมากขึ้น และเมื่อ ธปท. ได้ออกมาตรการมาช่วยเหลือ ประกอบกับแนวทางของกระทรวงพาณิชย์ ก็น่าจะบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการได้ แต่ยอมรับว่าการแข็งค่าของเงินบาทเป็นผลดีต่อการนำเข้าสำหรับสินค้าที่จำเป็น แต่เกรงว่าจะมีการนำเข้ามากเกินไปในระยะยาว ดังนั้น จึงต้องหาแนวทางดูแล. |