เนื้อหาวันที่ : 2006-12-01 09:34:23 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 808 views

BTS ยอมเลื่อนขึ้นค่าโดยสารออกไปอีก 3 เดือน และจะปรับขึ้นราคา 1 มี.ค. ปีหน้า

บีทีเอสยอมเลื่อนการขึ้นราคาไปอีก 3 เดือน และจะขึ้นค่าโดยสารทันทีในวันที่ 1 มี.ค.ปีหน้า โดยไม่เจรจาผ่อนผันอีก ระบุการเลื่อนดังกล่าวจะมีผลให้บริษัทสูญเสียรายได้ราว 100 ล้านบาท และกระทบต่อแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท

สำนักข่าวไทยรายงานข่าว กทม.เรียกประชุมบีทีเอส เจรจาชะลอปรับอัตราค่าโดยสาร แม้จะยืนกราน แต่ในที่สุดบีทีเอสยอมเลื่อนการขึ้นราคาไปอีก 3 เดือน และจะขึ้นค่าโดยสารทันทีในวันที่ 1 มี.ค.ปีหน้า โดยไม่เจรจาผ่อนผันอีก ระบุสูญเสียรายได้ 100 ล้านบาท และกระทบแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ

.

นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เรียกประชุมเพื่อหารือการขึ้นค่ารถไฟฟ้าบีทีเอส  ซึ่งมีกำหนดจะเก็บอัตราใหม่ในวันที่ 1 ธ.ค. โดยมี นายอาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัทบีทีเอส นายจิม พันธุมโกมล  ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ส.ก.เขตบางรัก และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ทันทีที่เริ่มประชุมที่ประชุมได้ขอให้บริษัทชะลอการปรับราคาออกไปก่อน

.

เนื่องจากจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่นายอาณัติ ให้เหตุผลว่า การปรับราคาครั้งนี้ผู้ที่จะได้รับผลกระทบมีเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้เดินทางระยะสั้น ค่าโดยสาร 1 สถานี จาก 10 บาท เพิ่มเป็น 15 บาท แต่สำหรับผู้เดินทางระยะยาวจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ประกอบกับการปรับราคาดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนฟื้นฟูของบริษัทที่เจ้าหนี้ให้ความเห็นชอบ บริษัทมีความจำเป็นต้องดำเนินการ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้โดยสาร 3 อย่าง คือ 1.จำหน่ายตั๋ว 30 วัน แบบที่เดินทาง 20 และ 30 เที่ยว ในราคาเดิม 1 ปี 2.จัดรถชัตเตอร์บัสรับส่ง 3.ปรับขบวนรถไฟฟ้าจากปกติมีขบวนละ 3 ตู้ เป็น 4 ตู้ เพื่อเพิ่มความสบายให้ผู้โดยสาร

.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง แม้ กทม.จะพยายามขอร้องให้ชะลอ แต่บีทีเอสยืนยันถึงความจำเป็นและไม่มีทีท่าจะจบลง กระทั่งนางบรรณโศภิษฐ์  ได้ขอให้บีทีเอสคิดให้รอบคอบทำให้นายอาณัติ  ออกไปโทรศัพท์หารือผู้บังคับบัญชา และกลับมาบอกต่อที่ประชุมว่าบริษัทยินดีเลื่อนการปรับราคาจากวันที่ 1 ธ.ค. ออกไปอีก 3 เดือน

.

นายอาณัติ เปิดเผยว่า บริษัทเลื่อนการปรับราคาจากวันที่ 1 ธ.ค. 49 ไปเป็นวันที่ 1 มี.ค. 2550 โดยการเลื่อนดังกล่าวจะมีผลให้บริษัทสูญเสียรายได้ราว 100 ล้านบาท และจะกระทบต่อแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทแต่ก็มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาระหว่างบริษัทและเจ้าหนี้ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 มี.ค. 2550 บริษัทจะปรับขึ้นราคาทันที โดยไม่มีการเจรจาผ่อนผันอีกแล้ว และเพื่อบรรเทาผลกระทบครั้งนี้บริษัทจะขายบัตรโดยสาร 30 วัน ทั้งแบบที่เดินทางได้ 20 เที่ยว และ 30 เที่ยวในราคาเดิมออกไปอีก 3