|
พลังงานเตรียมอ้อนของบ 500 ล้านบาท จัดตั้งองค์กรบริหารจัดการเชื้อเพลิงชีวภาพแบบองค์กรเอกชน วางระบบบริหารจัดการเอทานอลไบโอดีเซลครบวงจร |
| . |
|
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางจัดตั้งองค์กรบริหารจัดการเชื้อเพลิงชีวภาพแบบองค์กรเอกชน เพื่อบริหารจัดการพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยเฉพาะเอทานอลและไบโอดีเซลครบวงจร ตั้งแต่ การปลูก บริโภค นำมาใช้เป็นพลังงาน ส่งออก นำเข้า และการปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล |
| . |
|
โดยเตรียมเสนอของบประมาณปี 2554 วงเงิน 3-5 ล้านบาทจ้างบริษัทที่ปรึกษาร่างกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ขององค์กร จากงบประมาณจัดตั้งองค์กรบริหารจัดการเชื้อเพลิงชีวภาพ ทั้งหมด 500 ล้านบาท |
| . |
|
สำหรับรูปแบบขององค์กร ประกอบด้วยคณะกรรมการนโยบาย 21 คน มาจากผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยมีคณะกรรมการบริหารอีกอีก 13 คน มีผู้แทนจากกระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ ผู้ผลิตเอทานอล ไบโอดีเซล และเกษตรกร นอกจากนี้ยังศึกษาการโอนอำนาจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาไว้ที่องค์กรใหม่นี้ เช่น กระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรม เกษตรฯ คลัง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และพลังงาน |
| . |
|
ทั้งนี้หากศึกษาเสร็จ จะเสนอ รมว.พลังงานพิจารณาและเสนอ ครม.เพื่อออก พ.ร.บ.โอนอำนาจหน้าที่หน่วยงานราชการมาไว้ที่องค์กรบริหารจัดการเชื้อเพลิงชีวภาพ และให้องค์กรดังกล่าวมีอำนาจหารายได้เองอีกด้วย ซึ่งอาจจะเก็บเงินจากการนำเข้าหรือส่งออกน้ำมันปาล์ม |
| . |
|
"การโอนอำนาจจะช่วยให้การบริหารจัดการเอทานอลและไบโอดีเซลสะดวกรวดเร็ว และวางแผนระยะยาวได้ เช่นเดียวกับ บราซิลและมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งเป็นองค์กรมหาชน เพื่อง่ายต่อการควบคุมทิศทางปริมาณและราคาเอทานอลและไบโอดีเซลทั้งระบบ" แหล่งข่าวกล่าว |
| . |
|
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวหลังประชุมร่วมเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เพื่อกำหนดแนวทางติดตั้งเอ็นจีวี 3 หมื่นคัน ว่า แนวทางดำเนินการจะยึดหลักการมีส่วนร่วม โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยจะให้ผู้แทนแท็กซี่มีส่วนร่วมการยกร่างประกาศเชิญชวน (ทีโออาร์) ซึ่งมีคณะกรรมการยกร่าง 5 คน มาจาก สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรมธุรกิจพลังงาน สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) และเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ รวมทั้งอยู่ในคณะกรรมการพิจารณาราคา ,คณะกรรมการตรวจรับ จึงเชื่อมั่นว่าจะสร้างความโปร่งใส และป้องกันการล็อกสเปค |
| . |
|
"การร่างทีโออาร์จะเริ่มปลายเดือนก.ย.นี้ ซึ่งคณะกรรมการยกร่างจะหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางการจัดทำโครงการเปลี่ยนรถแท็กซี่ที่ใช้แอลพีจีเป็นเอ็นจีวีฟรีที่เหมาะสม ซึ่งเป็นไปได้หลายแนวทาง ทั้งการให้แท็กซี่ไปติดตั้งอิสระ หรือคัดเลือกอู่ติดตั้ง ขึ้นอยู่กับการหารือร่วมกัน โดยจะเดินสายตรวจสอบความพร้อมของอู่ติดตั้งเอ็นจีวี 20 อู่ เพื่อประเมินว่าเพียงพอต่อการดำเนินโครงการหรือไม่" นายณอคุณกล่าว |
| . |
| ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ |
Thailandindustrycom_official
