นักวิชาการ ม.ธรรมศาสตร์ จวกรัฐบาลอภิประชานิยม ไม่เชื่อจะสามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นได้ เผยผลศึกษาแผนไทยเข้มแข็ง จุดอ่อนเพียบ งบประมาณจัดสรรไม่ทั่วถึง กระจุกตัวแต่ในเมือง
นักวิชาการ ม.ธรรมศาสตร์ จวกรัฐบาลอภิประชานิยม ไม่เชื่อจะสามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นได้ เผยผลศึกษาแผนไทยเข้มแข็ง จุดอ่อนเพียบ งบประมาณจัดสรรไม่ทั่วถึง กระจุกตัวแต่ในเมือง |
นางปัทมาวดี ซูซูกิ คณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า คณะเศรษฐศาสตร์ มธ. ได้ทำการศึกษาแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2552 หรือ SP 2 ของรัฐบาล ภายใต้วงเงิน 1.43 ล้านล้านบาท พบว่า มีการจัดสรรงบประมาณถึง 31.27% ให้กับการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง ซึ่งเงินเกือบครึ่งหนึ่งลงทุนในรถไฟฟ้า กทม. และปริมณฑล ส่วนโครงการที่จะเอื้อประโยชน์ต่อภูมิภาคและท้องถิ่น โดยเฉพาะขนส่งทางราง มีเพียง 5% เท่านั้น จะเห็นได้ว่า โครงการกระจุกตัวอยู่ในเมือง รวมทั้งไม่มีงบลงทุนในการพัฒนาขนส่งทางน้ำ |
ขณะเดียวกัน งบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็เน้นไปที่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานจำเป็นสำหรับภาคเกษตร โดยเฉพาะใช้งบประมาณสูงในโครงการชลประทาน แต่เพิ่มพื้นที่ชลประทานได้น้อย เพราะพื้นที่ชลประทานทั่วประเทศมีเพียง 23% ของพื้นที่เกษตร และพื้นที่ชลประทานจำนวนมากถูกเปลี่ยนไปสู่นอกภาคเกษตร รวมทั้งยังไม่มีงบวิจัยและพัฒนาเพื่อต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น |
. |
นางปัทมาวดี กล่าวว่า จากการวิเคราะห์การจัดสรรงบประมาณ SP 2 ตามแผนดังกล่าวแล้ว โครงการนี้จะมีผลทางจิตวิทยาในการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเท่านั้น แต่ไม่มีพลังในการกระตุ้นให้เศรษฐกิจเข้มแข็งในระยะปานกลาง-ระยะยาว และไม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการแข่งขันให้ประเทศไทยมากนัก |
. |
เนื่องจากแผน SP 2 เป็นการสานต่อโครงการเดิมๆ ที่ยังไม่สำเร็จ ในลักษณะปะผุ ส่วนโครงการเกิดใหม่ เช่น โครงการตามแผนงานพัฒนาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ยังขาดทิศทางและไม่มีเป้าหมาย รวมทั้งการจัดทำแผนดังกล่าวเป็นแบบกระจัดกระจาย ไม่เป็น PACKAGE ทำให้ไม่มีพลัง ซึ่งรัฐบาลควรที่จะนำจุดอ่อน และวิสัยทัศน์ของประเทศมาพิจารณาด้วย |
. |
ขณะที่จุดอ่อนเรื่องการนำเข้าพลังงานเป็นจำนวนมาก พบว่าในแผน SP 2 การจัดสรรงบประมาณเรื่องการพัฒนาพลังงานทดแทนมีน้อยมาก เช่นเดียวกับการช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี รัฐบาลให้เพียงแค่เงินโดยผ่านโครงการเพิ่มทุนให้สถาบันการเงิน แต่กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับงบน้อยเพียงกว่า 2,000 ล้านบาท รวมทั้งยังไม่มีแผนพัฒนาสินค้า OTOP และยกระดับ SME |
. |
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ |