อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ชี้การส่งออกมี '53 มีแนวโน้มจากปีนี้ หลังเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณฟื้นตัว เผยพาณิชย์เตรียมทุ่มงบเกือบ 3 พันล้านบาท ผลักดันการส่งออกเน้นเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก |
. |
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกในปี '53 จะดีขึ้นจากปีนี้ หลังจากมีสัญญาณการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก และคาดว่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวก แม้ในปีนี้การส่งออกอาจจะติดลบประมาณ 15-19% กรมส่งเสริมการส่งออกจึงทำแผนยุทธศาสตร์ หลังจากได้รับอนุมัติงบประมาณปี 53 มูลค่า 2,915 ล้านบาท จะนำมาใช้ในการผลักดันส่งเสริมการส่งออกผ่านโครงการหลัก 5 ด้าน ประกอบด้วย การส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าในการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร |
. |
โดยสินค้าที่มีศักยภาพคือ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง อาหาร เนื่องจากอาหารมีสัดส่วนการส่งออก 17% ของมูลค่าการส่งออกรวมจะเพิ่มเป็น 19% การลดต้นทุนสินค้าในระบบ Trade-Logistics โดยการส่งเสริมผู้ประกอบการให้เพิ่มเครือข่ายเชื่อมโยงผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ในประเทศอาเซียน รวมถึงการทำศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Export Service) และการตั้งศูนย์กระจายสินค้าในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก |
. |
นอกจากนี้ จะส่งเสริมการส่งออกผ่านเส้นทางโลจิส ติกส์ใหม่ๆ เช่น R3, R9, การขยายตลาดใหม่ และรักษาตลาดเดิม จะเน้นตลาดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เช่น ฮาวาย มัลดีฟส์ โอกินาวา มีคนมาท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน จะเป็นช่องการจำหน่ายสินค้าให้กับนักท่องเที่ยวในนั้น อีกทั้งตลาดเฉพาะของชุมชนต่างๆ เช่น Hispanic คือกลุ่มตลาดของคนที่พูดภาษาและเชื้อชาติสเปนในต่างประเทศ รวมถึงชนชาติอื่น อาทิ ละตินอเมริกา |
. |
รวมทั้งขยายไปเจาะตลาดกลุ่มคนมุสลิมมากขึ้น จะขยายการผลิตสินค้าฮาลาลให้หลากหลายและตอบสนองตลาดให้มากขึ้น โดยในปี"53 จะผลักดันให้สัดส่วนการส่งออกตลาดใหม่ต่อตลาดเก่าเพิ่มเป็น 55% ต่อ 45% จากเดิมที่ตลาดใหม่และตลาดเก่ามีมูลค่าการส่งออกเท่ากันคือ 50% เน้นตลาดจีน อินเดีย และตะวันออกกลาง แอฟริกา และรัสเซียเก่า |
. |
นายราเชนทร์ยังกล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ใหม่ที่จะตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่จะผลักดันเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ว่า จะเน้นให้มีการพัฒนาแบรนด์สินค้าและบริการของไทยในธุรกิจบันเทิง ร้านอาหาร สปา การเน้นการส่งออกในตลาดอาเซียน เพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี"58 ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางแฟชั่นอาเซียน สำหรับการกำหนดเป้าหมายตัวเลขการส่งออกปีหน้าจะออกมาชัดเจนในเดือนต.ค.-พ.ย.นี้ เนื่องจากจะต้องหารือกับภาคเอกชนและทูตพาณิชย์ 57 ประเทศ ที่จะเดินทางมาประชุมร่วมกันช่วงกลางเดือนนี้ |
. |
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่น่าเป็นห่วงที่มีผลต่อการส่งออกของไทย เช่น ต้นทุนราคาน้ำมัน ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และมาตรการกีดกันทางการค้าที่มากขึ้นจากประเทศคู่ค้า สำหรับการส่งออกในปีนี้คาดว่าจะติดลบ 15-19% จากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 177,800 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่มีแนวโน้มที่การส่งออกจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นไป จนถึงสิ้นปี การส่งออกจะเติบโตเฉลี่ย 3-5% เนื่องจากการส่งออกเริ่มมีทิศทางการปรับตัวดีขึ้น |
. |
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์ |
. |