เนื้อหาวันที่ : 2009-08-25 12:07:59 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1251 views

คลังดิ้นเร่งเบิกจ่ายงบ คลอดมาตรการกระตุ้น 2 เดือนสุดท้าย

คลังคลอดมาตรการเร่งเบิกจ่ายงบฯ จี้หน่วยงานรัฐเร่งทำสัญญาและเบิกจ่าย หวั่นเงินเข้าสู่ระบบล่าช้า พร้อมติวเข้มฝ่ายการเงินเตรียมการใช้งบประมาณปี 53

กระทรวงการคลังออกหลักเกณฑ์การกันเงินและขยายเวลาเบิกจ่ายเงินเพื่อให้หน่วยงานของรัฐรีบทำสัญญาและเบิกจ่ายให้ทันสิ้นเดือนกันยายน 2552 หากไม่ทันให้รีบปรับแผนทำโครงการที่พร้อมเบิกจ่ายหรือทำสัญญาได้ทันภายในเดือนกันยายน 2552 หากดำเนินการไม่ทันเดือนกันยายนกรณีงบประมาณโครงการต่ำกว่า 2,000,000 บาท จะไม่พิจารณาให้กันเงินและขยายเวลา  

.

.

นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ  ทราบว่ายังมีงบประมาณที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายค้างมาตั้งแต่ปี 2545  - 2551 ประมาณ 97,500 ล้านบาท  ซึ่งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้ขออนุมัติขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณมาแล้ว           

.

โดยเป็นงบประมาณที่มีหนี้ผูกพัน (หรือมีการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง) แล้ว จำนวน 62,600 ล้านบาท  และยังไม่ได้ก่อหนี้ (ยังไม่ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง) อีกจำนวน 34,900 ล้านบาท  จึงได้วางแนวทางการกันเงินปี 2552 ไว้เบิกเหลื่อมปีและขยายเวลาเบิกจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว   เพื่อเร่งให้มีการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว  สำหรับงบประมาณที่ยังไม่ได้ก่อหนี้ผูกพันก็ให้กัน-ขยาย เฉพาะที่มีวงเงินจำนวนมากโดย

.

1. กรณีที่ทำสัญญาแล้วมีมูลค่าต่ำกว่า 50,000 บาท ให้เบิกจ่ายให้เสร็จในเดือนกันยายน 2552 โดยไม่อนุญาตให้กันเงินเพื่อเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2553  

.

2. กรณีที่ยังไม่ทำสัญญา มีมูลค่าต่ำกว่า 2,000,000 บาท ให้เร่งดำเนินการทำสัญญาในเดือนกันยายน 2552 หากไม่สามารถทำสัญญาได้ทันจะไม่อนุญาตให้กันเงินไว้เบิกจ่ายในปี 2553 

.

3. สำหรับงบประมาณปี 2552 จะอนุญาตให้กันไว้เบิกเหลื่อมปีถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2553 เฉพาะที่ทำสัญญาแล้ววงเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป และกรณีไม่ได้ทำสัญญาวงเงินตั้งแต่ 2,000,000 บาทขึ้นไป

.

4. สำหรับงบประมาณตั้งแต่ปี 2545 - 2551 กรณีทำสัญญาแล้วและมีเงินงบประมาณสูงกว่าที่กำหนดตามตารางสรุป จะอนุญาตให้ขยายเวลาไว้เบิกเหลื่อมปีหลังเดือนมีนาคม 2553 

.

กรณีทำสัญญาแล้ว

พศ.2551          ตั้งแต่ 100,000 บาท ขึ้นไป
พศ.2550          ตั้งแต่ 100,000 บาท ขึ้นไป
พศ.2549          ตั้งแต่ 100,000 บาท ขึ้นไป
พศ.2548          ตั้งแต่ 150,000 บาท ขึ้นไป
พศ.2547          ตั้งแต่ 150,000 บาท ขึ้นไป
พศ.2546          ตั้งแต่ 400,000 บาท ขึ้นไป
พศ.2545          ตั้งแต่ 1,000,000 บาท ขึ้นไป

.

5. สำหรับปี 2550 – 2551 กรณียังไม่ทำสัญญาแต่มีวงเงินงบประมาณตั้งแต่ 2,000,000 บาทขึ้นไป ผ่อนผันให้ดำเนินการทำสัญญาถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2553  (สำหรับงบประมาณปี 2545 – 2549 ไม่มีการผ่อนผันกรณียังไม่ได้ทำสัญญา โดยให้เงินงบประมาณนั้นพับไปและส่งเงินคืนคลัง)

.

6. อนุมัติให้กันเงินและขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณสมทบโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ ปี 2551 – 2552  ทั้งกรณีทำสัญญาแล้วและยังไม่ได้ทำสัญญา

.

7. สำหรับงบเงินอุดหนุน ให้ กทม.  เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ขอทำความตกลง ทุกกรณีพร้อมระบุเหตุผลความจำเป็นแต่ละรายการเป็นกรณี ๆ ไป

.

นอกจากมาตรการดังกล่าว วันที่ 24 สิงหาคม 2552 ที่ประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ครั้งที่ 5/2552 ที่มีรองนายกรัฐมนตรีกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นประธาน ได้กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐปรับปรุงการจัดทำแผนการเร่งรัดเบิกจ่าย ปีงบประมาณ 2553 เป็นรายเดือน ประมาณกระแสเงินสดที่ต้องใช้จ่ายอย่างมีหลักการ ชัดเจนใกล้เคียงความจริง          

.

และให้สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลางและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติวเข้ม ให้ความรู้ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการหัวหน้าฝ่ายการเงิน ผู้อำนวยการสำนักการคลัง และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การใช้งบประมาณปี 2553 เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ดีกว่าปีงบประมาณ 2552 ที่แผนการเบิกจ่ายไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

.

สำหรับผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2552 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณว่า จนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2552 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายไปแล้ว 1,497,325.45 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.62 ของวงเงินงบประมาณ (1,834,550.59 ล้านบาท) โดยต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายร้อยละ 2.38 และต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายในปี 2551 และ 2550 ที่เบิกจ่ายได้ร้อยละ 82.53 และ 83.44 

.

สำหรับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (งบกระตุ้นเศรษฐกิจ) มีผลการเบิกจ่ายเป็นที่น่าพอใจโดยระหว่างวันที่  9 มีนาคม จนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2552 มีเม็ดเงินเบิกจ่ายแล้ว 87,897.23 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 75.03 ของวงเงินงบประมาณ (117,149.41 ล้านบาท) โดยโครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำ

.

หมู่บ้าน (อสม.) ได้เบิกจ่ายครบถ้วนแล้ว (ร้อยละ 100) รองลงมาได้แก่ โครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ  เบิกจ่ายแล้วจำนวน 8,903.09  ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 98.92 ของวงเงินงบประมาณ

.

นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  "หลักเกณฑ์ที่กำหนดจะช่วยกระตุ้นให้ส่วนราชการเร่งดำเนินการและเบิกจ่ายงบที่มีวงเงินไม่ถึง 50,000 บาท พร้อมทั้งเร่งทำสัญญางบประมาณที่มีวงเงินต่ำกว่า 2,000,000 บาท ในช่วงเดือนสิงหาคม และกันยายน 2552 ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยเร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และต้องจัดการติวเข้ม หัวหน้าฝ่ายการเงินของหน่วยงานต่าง ๆ ให้พร้อมในการใช้งบประมาณปี 2553 ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าปี 2552"  

.