คลังคลอดมาตรการเร่งเบิกจ่ายงบฯ จี้หน่วยงานรัฐเร่งทำสัญญาและเบิกจ่าย หวั่นเงินเข้าสู่ระบบล่าช้า พร้อมติวเข้มฝ่ายการเงินเตรียมการใช้งบประมาณปี 53
กระทรวงการคลังออกหลักเกณฑ์การกันเงินและขยายเวลาเบิกจ่ายเงินเพื่อให้หน่วยงานของรัฐรีบทำสัญญาและเบิกจ่ายให้ทันสิ้นเดือนกันยายน 2552 หากไม่ทันให้รีบปรับแผนทำโครงการที่พร้อมเบิกจ่ายหรือทำสัญญาได้ทันภายในเดือนกันยายน 2552 หากดำเนินการไม่ทันเดือนกันยายนกรณีงบประมาณโครงการต่ำกว่า 2,000,000 บาท จะไม่พิจารณาให้กันเงินและขยายเวลา |
. |
. |
นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ทราบว่ายังมีงบประมาณที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายค้างมาตั้งแต่ปี 2545 - 2551 ประมาณ 97,500 ล้านบาท ซึ่งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้ขออนุมัติขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณมาแล้ว |
. |
โดยเป็นงบประมาณที่มีหนี้ผูกพัน (หรือมีการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง) แล้ว จำนวน 62,600 ล้านบาท และยังไม่ได้ก่อหนี้ (ยังไม่ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง) อีกจำนวน 34,900 ล้านบาท จึงได้วางแนวทางการกันเงินปี 2552 ไว้เบิกเหลื่อมปีและขยายเวลาเบิกจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อเร่งให้มีการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว สำหรับงบประมาณที่ยังไม่ได้ก่อหนี้ผูกพันก็ให้กัน-ขยาย เฉพาะที่มีวงเงินจำนวนมากโดย |
. |
1. กรณีที่ทำสัญญาแล้วมีมูลค่าต่ำกว่า 50,000 บาท ให้เบิกจ่ายให้เสร็จในเดือนกันยายน 2552 โดยไม่อนุญาตให้กันเงินเพื่อเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2553 |
. |
2. กรณีที่ยังไม่ทำสัญญา มีมูลค่าต่ำกว่า 2,000,000 บาท ให้เร่งดำเนินการทำสัญญาในเดือนกันยายน 2552 หากไม่สามารถทำสัญญาได้ทันจะไม่อนุญาตให้กันเงินไว้เบิกจ่ายในปี 2553 |
. |
3. สำหรับงบประมาณปี 2552 จะอนุญาตให้กันไว้เบิกเหลื่อมปีถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2553 เฉพาะที่ทำสัญญาแล้ววงเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป และกรณีไม่ได้ทำสัญญาวงเงินตั้งแต่ 2,000,000 บาทขึ้นไป |
. |
4. สำหรับงบประมาณตั้งแต่ปี 2545 - 2551 กรณีทำสัญญาแล้วและมีเงินงบประมาณสูงกว่าที่กำหนดตามตารางสรุป จะอนุญาตให้ขยายเวลาไว้เบิกเหลื่อมปีหลังเดือนมีนาคม 2553 |
. |
กรณีทำสัญญาแล้ว |
พศ.2551 ตั้งแต่ 100,000 บาท ขึ้นไป |
. |
5. สำหรับปี 2550 – 2551 กรณียังไม่ทำสัญญาแต่มีวงเงินงบประมาณตั้งแต่ 2,000,000 บาทขึ้นไป ผ่อนผันให้ดำเนินการทำสัญญาถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2553 (สำหรับงบประมาณปี 2545 – 2549 ไม่มีการผ่อนผันกรณียังไม่ได้ทำสัญญา โดยให้เงินงบประมาณนั้นพับไปและส่งเงินคืนคลัง) |
. |
6. อนุมัติให้กันเงินและขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณสมทบโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ ปี 2551 – 2552 ทั้งกรณีทำสัญญาแล้วและยังไม่ได้ทำสัญญา |
. |
7. สำหรับงบเงินอุดหนุน ให้ กทม. เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ขอทำความตกลง ทุกกรณีพร้อมระบุเหตุผลความจำเป็นแต่ละรายการเป็นกรณี ๆ ไป |
. |
นอกจากมาตรการดังกล่าว วันที่ 24 สิงหาคม 2552 ที่ประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ครั้งที่ 5/2552 ที่มีรองนายกรัฐมนตรีกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นประธาน ได้กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐปรับปรุงการจัดทำแผนการเร่งรัดเบิกจ่าย ปีงบประมาณ 2553 เป็นรายเดือน ประมาณกระแสเงินสดที่ต้องใช้จ่ายอย่างมีหลักการ ชัดเจนใกล้เคียงความจริง |
. |
และให้สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลางและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติวเข้ม ให้ความรู้ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการหัวหน้าฝ่ายการเงิน ผู้อำนวยการสำนักการคลัง และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การใช้งบประมาณปี 2553 เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ดีกว่าปีงบประมาณ 2552 ที่แผนการเบิกจ่ายไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง |
. |
สำหรับผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2552 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณว่า จนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2552 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายไปแล้ว 1,497,325.45 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.62 ของวงเงินงบประมาณ (1,834,550.59 ล้านบาท) โดยต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายร้อยละ 2.38 และต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายในปี 2551 และ 2550 ที่เบิกจ่ายได้ร้อยละ 82.53 และ 83.44 |
. |
สำหรับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (งบกระตุ้นเศรษฐกิจ) มีผลการเบิกจ่ายเป็นที่น่าพอใจโดยระหว่างวันที่ 9 มีนาคม จนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2552 มีเม็ดเงินเบิกจ่ายแล้ว 87,897.23 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 75.03 ของวงเงินงบประมาณ (117,149.41 ล้านบาท) โดยโครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำ |
. |
หมู่บ้าน (อสม.) ได้เบิกจ่ายครบถ้วนแล้ว (ร้อยละ 100) รองลงมาได้แก่ โครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ เบิกจ่ายแล้วจำนวน 8,903.09 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 98.92 ของวงเงินงบประมาณ |
. |
นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "หลักเกณฑ์ที่กำหนดจะช่วยกระตุ้นให้ส่วนราชการเร่งดำเนินการและเบิกจ่ายงบที่มีวงเงินไม่ถึง 50,000 บาท พร้อมทั้งเร่งทำสัญญางบประมาณที่มีวงเงินต่ำกว่า 2,000,000 บาท ในช่วงเดือนสิงหาคม และกันยายน 2552 ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยเร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และต้องจัดการติวเข้ม หัวหน้าฝ่ายการเงินของหน่วยงานต่าง ๆ ให้พร้อมในการใช้งบประมาณปี 2553 ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าปี 2552" |
. |