เนื้อหาวันที่ : 2009-08-17 14:07:02 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1235 views

อุตฯ อาหารเฮ! ส่งออกฟื้นพุ่ง 2 หมื่นล้าน

อานิสงส์เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าเริ่มฟื้น อุตสาหกรรมอาหารส่งออกรับออร์เดอร์อื้อ คริสต์มาส - ปีใหม่จ่อคิว คาดปี 52 อาจมีมูลค่าสูงถึง 7.4 แสนล้านบาท จับตาจีนย้ายฐานการผลิตเข้าไทย

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร

.

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าหลายประเทศเริ่มขยายตัวในทิศทางที่ดี จนเพิ่มคำสั่งซื้ออาหารเพื่อรองรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่จะถึง ทำให้ผู้ผลิตอาหารไทยต้องเพิ่มกำลังการผลิตและรับแรงงานจำนวนมากโดยเฉพาะแรงงานไร้ฝีมือจากประเทศเพื่อนบ้าน     

.

ดังนั้นคาดว่าการส่งออกอาหารไทยปี 52 อาจมีมูลค่า 7.4 แสนล้านบาทลดลงจากปีก่อนเพียง 5% แต่เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ตั้งไว้ถึง 2 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาหารสำเร็จรูป กุ้ง ไก่ น้ำตาลทราย ปลากระป๋อง เครื่องปรุงรส ข้าวแปรรูป และน้ำผลไม้ 

.

ขณะเดียวกันผู้ผลิตอาหารบางรายต้องการให้รัฐบาลเพิ่มเวลาการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวจากปีละ 1 ครั้งเป็น 2 ครั้ง เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มในแต่ละช่วงเวลา หรือใช้วิธีขึ้นทะ เบียนเพื่อขอโควตาแรงงานต่างด้าวล่วงหน้าไว้ช่วงที่คำสั่งซื้อเพิ่มผิดปกติ โดยภาคอุตสาหกรรม อาหารใช้แรงงานต่างด้าวประมาณ 1 แสนคน

.

"ช่วง 6 เดือนแรกของปีทั่วโลกประ สบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจส่งผลให้โรงงานผลิตอาหารไทยใช้กำลังการผลิตเพียง 51.4 ของกำลังผลิตทั้งหมดลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.5% โดยส่งออกคิดเป็นมูลค่า 3.54 แสนล้านบาทลดลง 6.6% ส่วนใหญ่ลดลงในกลุ่มเกษตรวัตถุดิบอาหาร อาหารแปรรูปขั้นต้น อาหารสัตว์ ส่วนครึ่งหลังมั่นใจว่าส่งออกจะเพิ่มขึ้นเพราะเศรษฐกิจหลายประเทศในยุโรปและอเมริกาเริ่มฟื้นอย่างชัดเจน"

.

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทข้ามชาติหลายรายเตรียมย้ายฐานการผลิตมาอยู่ในไทย โดยเฉพาะบริษัทจากจีนเพื่อผลิตสินค้าส่งออกทั่วโลก เนื่องจาก บริษัทข้ามชาติที่ตั้งโรงงานในจีนประสบปัญหาส่งออกเพราะทั่วโลกไม่ยอมรับเรื่องคุณภาพสินค้าอาหาร จึงจำเป็นต้องอาศัยผลผลิตจากไทยในการสร้างความเชื่อมั่นแทน

.

ขณะเดียวกันกลางเดือน ส.ค. 52 นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม จะเปิดศูนย์กระจายสินค้าที่เมืองหลิงเซี๊ยะและเปิดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แห่งที่ 3 ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ซึ่งการเปิดศูนย์กระจายสินค้าจะช่วยให้ไทยส่งออกไปจีนมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารฮาลาล เพราะเมืองหลิงเซี๊ยะมีประชากรที่เป็นมุสลิมถึง 2 ล้านคนรวมถึงช่วยกระจายอาหารฮาลาลไปทั่วประเทศจีนด้วย

.

ทั้งนี้นักธุรกิจจีนกับไทยจะร่วมลงทุนอาหารฮาลาลด้วยกันโดยไทยจะใช้ฐานการผลิตอาหารในจังหวัดปัตตานีและจีนจะใช้ฐานการผลิตในเมืองหลิงเซี๊ยะ เพื่อส่งออกทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง

.

"ปัจจุบันไทยส่งออกอาหารและนำเข้าอาหารจากจีนปีละ 5 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผัก ผลไม้ อาหารทะเล หากจีนเข้ามาลงทุนอาหารในไทยเพื่อส่งออกตลาดจีนรวมถึงการส่งเสริมอาหารฮาลาลร่วมกันภายใน 3 ปีข้างหน้าจะสามารถเพิ่มมูลค่าค้าขายอาหารร่วมกันถึง 1 แสนล้านบาทแน่นอน"

.

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า วันที่ 18-21 สค. 52 จะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และภาคเอกชน กว่า 50 ราย ร่วมเดินทางไปชักจูงการลงทุนเมืองกวางโจว ประเทศจีน พร้อมทั้งเปิดสำนักงานส่งเสริมการลงทุน ที่ กวางโจว โดยในงานจะจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยและจีน เช่น อาหาร ข้าว ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

.
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์