เนื้อหาวันที่ : 2009-08-10 15:50:10 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1211 views

ศูนย์วิจัยกสิกรฯคาดเฟดคงดอกเบี้ย แม้ศก.สหรัฐมีสัญญาณดีขึ้นแต่ยังเสี่ยง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% พร้อมสานต่อนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจมีสัญญาณดีขึ้นหวั่นหยุดชะงักและทรุดลงอีก

.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC)ของธนาคารกลางสหรัฐรอบที่ 5 ของปีในวันที่ 11-12 ส.ค.นี้ คาดว่าเฟดน่าจะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น(Fed Funds Rate)ไว้ในกรอบ 0-0.25% แต่ยังคงสานต่อการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องตามความจำเป็นต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ก็พร้อมจะถอยออกจากนโยบายที่ผ่อนคลายอย่างมากเป็นพิเศษ เมื่อถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมเพื่อดูแลเสถียรภาพของเศรษฐกิจโดยรวม

.

แต่อาจเร็วเกินไปที่เฟดจะส่งสัญญาณการถอยออกจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในช่วงนี้ โดยเฟดคงจะต้องทำหน้าที่ประคับประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯให้ค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพ จนกว่าจะมั่นใจว่าการถอยออกจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะไม่ส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ต้องหยุดชะงักลงหรือมีโอกาสทรุดตัวลงไปอีก 

.

นอกจากนี้ มีแนวโน้มสูงที่จะไม่ขยายวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐ เพิ่มจากแผนเดิมที่กำหนดวงเงินไว้ 3 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่เฟดได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไปแล้วเป็นจำนวน 2.43 แสนล้านดอลลาร์ และจะซื้อครบตามวงเงินดังกล่าวในช่วงเดือน ก.ย.นี้   

.

เนื่องจากการดำเนินนโยบายทั้งการเงินและการคลังของทางการสหรัฐในเชิงที่ผ่อนคลายอย่างมากและต่อเนื่อง เริ่มปรากฏผลสัมฤทธิ์บ้างแล้วเมื่อเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่เริ่มแสดงสัญญาณการฟื้นตัวที่มีเสถียรภาพมากขึ้นหรือบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐ น่าที่จะได้มาถึงหรือกำลังผ่านจุดที่ต่ำสุดของภาวะถดถอยแล้ว          

.

โดยเฉพาะล่าสุดเครื่องชี้ในตลาดแรงงานเดือน ก.ค.52 ที่ออกมาดีกว่าคาดมาก จนทำให้สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า(Interest Rate Futures)ปรับเพิ่ม ความเป็นไปได้ที่เฟดอาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในปีนี้ รวมทั้งตลาดการเงินก็ตอบรับในทางบวกมากขึ้น

.

แต่ในระยะข้างหน้าความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงมีน้ำหนักที่เด่นชัดอยู่มาก เพราะยังเป็นเพียงแค่ช่วงเริ่มต้นของเส้นทางการฟื้นตัวซึ่งยังคงมีความเปราะบาง โดยที่การฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจสหรัฐ ยังต้องรอการยืนยันและคงต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร โดยเฉพาะในตลาดแรงงานที่มักจะฟื้นตัวได้ล่าช้ากว่าวัฏจักรเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังมียอดบ้านค้างสต็อกเหลืออยู่อีกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ยังมีระดับต่ำ เนื่องจากยังมีผลผลิตส่วนเกิน(Output Gap)ในภาคเศรษฐกิจเหลืออยู่อีกมาก 

.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้คาดว่าเฟดน่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้และส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต แต่ทิศทางตลาดการเงินนับจากนี้น่าที่จะมุ่งความสนใจไปที่การรายงานเครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ในระยะถัดๆ ไปว่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องได้หรือไม่ 

.

หากเครื่องชี้ส่วนใหญ่ปรับตัวในทิศทางที่แข็งแกร่งกว่าคาด ก็ย่อมเป็นแรงส่งให้ตลาดเพิ่มมุมมองในเชิงบวกและการคาดการณ์ถึงภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในจังหวะเวลาที่เร็วขึ้นกว่าเดิม นั่นอาจนำมาสู่การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก การปรับขึ้นของราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ตลาดโลก

.

ตลอดจนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐ ซึ่งท้ายที่สุดตลาดเงินและตลาดทุนไทยก็คงยากจะหลีกเลี่ยงผลกระทบจากความเคลื่อนไหวดังกล่าว ดังนั้น ภาคธุรกิจและผู้ลงทุนจึงควรระมัดระวังและวางแผนเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินทั้งในและต่างประเทศไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ