เนื้อหาวันที่ : 2009-08-10 13:16:42 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 926 views

คลัง วางระบบติดตามการเบิกจ่ายงบกระตุ้นศก.แผน SP2

นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์  รมช.คลัง เปิดเผยว่า  ขณะนี้ได้มอบนโยบายให้กรมบัญชีกลางกำกับดูแลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ตามโครงการลงทุนภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 (SP2)  ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 วงเงินลงทุน 1.43 ล้านล้านบาท โดยช่วงปีงบประมาณ 52-53  จะมีเงินลงทุนตามโครงการดังกล่าว ประมาณ  4.5 แสนล้านบาท ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว

.

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้วางระบบเพื่อติดตามและรายงานผลโครงการ PFMS-SP2 (Projects Financial Monitoring System SP2) เป็นการเฉพาะ โดยใช้งบประมาณถึง 100 ล้านบาท นอกเหนือจากระบบ e-budgeting ซึ่งเป็นระบบการขอตั้งและการอนุมัติงบประมาณผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน                          

.

และระบบการเบิกจ่าย ติดตามและรายงานผลการดำเนินงานผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์(GFMIS)เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ  เข้าด้วยกันให้รัฐบาลสามารถใช้ข้อมูลจากระบบในการวิเคราะห์และการบริหารการใช้จ่ายงบดังกล่าว และวางแผนการกู้เงินให้สอดคล้องกับแผนการลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ 

.

การขอใช้งบ SP2 หน่วยงานจะบันทึกข้อมูลโครงการในระบบ e-budgeting เช่นเดียวกับการของบประมาณปกติ เมื่อผ่านกระบวนการพิจารณาอนุมัติแล้วจะเชื่อมโอนข้อมูลเข้าระบบ PFMS-SP2 ทั้งชื่อและรหัสโครงการ แผนการใช้จ่าย แผนงาน งวดการเบิกจ่ายเงิน หลังจากนั้นจะเชื่อมโอนข้อมูลด้านการเบิกจ่ายต่อไปยังระบบ GFMIS เพื่อดำเนินกระบวนการเบิกจ่ายผ่านทางกรมบัญชีกลาง 

.

ทั้งนี้ ได้กำชับให้การเบิกจ่ายเงินในระบบ GFMIS ต้องสามารถติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานตามงวดงาน และผลการเบิกจ่ายเงินของโครงการต่างๆ ของรัฐบาลทั้งจากการใช้งบประมาณตามปกติ รวมทั้งการใช้งบประมาณตามโครงการไทยเข้มแข็ง (SP2)  ตั้งแต่ระดับสาขา หน่วยงาน และโครงการ ผ่านทางระบบ Internet ได้ตลอดเวลา 

.

"ที่ผ่านมาคลังได้ผ่อนผันการจัดซื้อจัดจ้าง e-auction ไปแล้วสำหรับโครงการ SP2 โดยลดระยะเวลาการจัดซื้อจัดจ้าง จากเดิม 85 วัน เหลือ 28 วัน ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และได้ให้เร่งดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แบบบูรณาการมาใช้ในการควบคุม ติดตามและประเมินผลเพื่อการใช้งบประมาณแผ่นดินเกิดความคุ้มค่าและเป็นประโยชน์สูงสุด" รมช.คลัง กล่าว