เนื้อหาวันที่ : 2009-08-07 13:38:38 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1105 views

กระหนํ่าขายมัน-ข้าวโพดนายทุน

กรมการค้าต่างประเทศ เร่งปรับวิธีระบายข้าวโพดและมันสำปะหลังในสต๊อกรัฐบาลใหม่ หวังให้คล่องตัวมากขึ้น ไม่ต้องรอให้มีการเปิดประมูล

.
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้ปรับแนวทางการระบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังในสต๊อกรัฐบาลใหม่ ตามมติ ครม. เพื่อให้วิธีระบายมีความคล่องตัวขึ้น โดยในส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 981,748.1 ตัน จะแบ่งขายให้ผู้ประกอบการในประเทศ ทั้งผู้ซื้อรายย่อย กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน
.

รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมและเจ้าของโกดัง 200,000 ตัน และส่วนที่เหลือจะขายเพื่อการส่งออก โดยจะเปิดให้ผู้ที่สนใจซื้อทั้งผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศ สามารถยื่นเงื่อนไขเสนอซื้อได้เลย ไม่ต้องมีการประมูล

.

ส่วนมันสำปะหลัง ได้ปรับเงื่อนไขจากเดิมให้ส่งออกเพียงอย่างเดียว เป็นสามารถซื้อเพื่อใช้ในประเทศได้ โดยมีมันสำปะหลังเส้นคงเหลือ 2.78 ล้านตัน แป้งมัน 8.18 แสนตัน ในจำนวนนี้จะกันไว้ 5 แสนตัน เพื่อขายให้กับผู้ประกอบการในประเทศ ส่วนที่เหลือจะเปิดขายเพื่อส่งออก ซึ่งคาดว่าจะสามารถขายได้เพราะตลาดมีความต้องการมาก ทั้งจากการซื้อขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) รวมไปถึงการขายเพื่อนำไปผลิตพลังงานทดแทน ซึ่งล่าสุดมีติดต่อขอซื้อแป้งมันเข้ามาแล้ว 2.8 แสนตัน 

.

"ทั้งมันสำปะหลังและข้าวโพดจะใช้ขั้นตอนคล้ายกัน โดยกำหนดให้ 1 วันใน 1 สัปดาห์ ให้ผู้ที่สนใจจะซื้อข้าวโพด และมันให้ยื่นเสนอราคาเข้ามาแบบเป็นการทั่วไป ใครที่สนใจก็เสนอราคาเข้ามา ใครเสนอราคาก่อน ก็จะได้คิวเจรจาต่อรองก่อน และถ้าได้ราคาตามเกณฑ์ที่กำหนดก็จะขายให้ เพื่อรีบระบายของออกให้หมด หลังจากการเปิดประมูล มีคนมาเสนอราคาซื้อไม่มาก และไม่ได้ราคาตามเกณฑ์ที่กำหนด"

.

รายงานข่าวจากผู้ประกอบการค้าข้าวโพดแจ้งว่า การปรับเงื่อนไขให้สามารถซื้อเพื่อขายในประเทศ ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์บางรายในประเทศ เพราะสาเหตุที่มีการชะลอระบายข้าวโพดมาตั้งแต่ เดือนก.พ. ทั้ง ๆ ที่ได้ราคาดี เนื่องจากมีผู้ประกอบการล็อบบี้ให้ปรับเงื่อนไขการขายจากส่งออกทั้งหมดมาเป็นเพื่อใช้ในประเทศ นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกรยังมีความกังวลว่า หากรัฐบาลเปิดระบายสินค้าเกษตรเพื่อใช้ในประเทศ จะเป็นการทำสินค้าเกษตรฤดูกาลใหม่ล้นตลาด และเผชิญปัญหาตกต่ำ

.

ทั้งนี้ในส่วนของการซื้อใช้ในประเทศนั้น รัฐจะกำหนดเงื่อนไขออกมาในภายหลังว่าใครมีคุณสมบัติที่จะเสนอซื้อได้บ้าง โดยเฉพาะในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรม และจะไม่มีการจำกัดว่าจะต้องซื้อขั้นต่ำเท่าไร ใครจะเสนอซื้อเท่าไรก็ได้ ทั้งหมดก็ได้ หากคิดว่าให้ราคาดี และผ่านเกณฑ์   ราคาที่กำหนด  

.

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ผลการเปิดประมูลข้าวหอม   มะลิ ชั้น 2 จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/52 ปริมาณ 3 แสนตัน ผ่านอิงราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า มี ผู้ประกอบการค้าข้าว 45 ราย ยื่นซองเสนอซื้อข้าวแบบเสนอส่วนต่างราคา (เบสิส) โดยราคาส่วนต่างที่เสนอเพิ่มจากราคาซื้อขายล่วงหน้า มีตั้งแต่กก.ละ 0.50-1.50 บาท ส่วนราคาส่วนต่างที่เสนอลดมีตั้งแต่กก.ละ 2.50- 6.80 บาท ซึ่งจะเสนอให้คณะอนุกรรมการระบายข้าวที่มีนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประธานพิจารณา 

.

"หลักเกณฑ์การขายนั้นจะอนุมัติขายให้ผู้เสนอส่วนต่างราคาดีที่สุด และเสนอคณะกรรม   การระบายข้าว เห็นชอบต่อไป หลังจากนั้นจะให้ผู้ชนะการประมูลมาทำสัญญาและวางเงินค้ำประกัน 5% ของราคาข้าว"

.
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์