นักเศรษฐศาสตร์คาดอัตราว่างงานมีแนวโน้มพุ่งถึง 9.6% ระบุแม้มีการปลดพนักงานน้อยลงในเดือน ก.ค. แต่อัตราว่างงานยังส่อแววพุ่นทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี
. |
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า แม้นายจ้างในสหรัฐจะปลดพนักงานน้อยลงในเดือนก.ค. แต่อัตราว่างงานก็ยังมีแนวโน้มว่าจะทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี |
. |
โดยนักเศรษฐศาสตร์ 82 รายจากการสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานในสหรัฐอาจลดลง 325,000 อัตราในเดือนก.ค. จากที่ลดลง 467,000 อัตราในเดือนมิ.ย. ถึงกระนั้นอัตราว่างงานก็มีแนวโน้มทะยานแตะ 9.6% จากเดิมที่ระดับ 9.5% |
. |
ปัจจุบันหลายบริษัทในสหรัฐยังคงตั้งหน้าตั้งตาลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ส่งสัญญาว่ากว่าตลาดแรงงานจะฟื้นตัวคงต้องใช้เวลาพักใหญ่ นอกจากนั้นอัตราว่างงานที่คาดว่าจะทะลุ 10% ในปีหน้า, ค่าแรงที่ไม่ปรับสูงขึ้น และราคาบ้านที่ลดลง จะทำให้การใช้จ่ายผู้บริโภคลดลง ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในที่สุด |
. |
"ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในสภาพย่ำแย่" ไนเจล กอลท์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท ไอเอชเอส โกลบอล อินไซท์ ในแมสซาชูเซทท์ กล่าว "ประชาชนหมดหวังแล้วว่าตลาดแรงงานจะฟื้นตัวในเร็ววันนี้" |
. |
กระทรวงแรงงานมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานอย่างเป็นทางการในเวลา 8.30 น.ตามเวลาวอชิงตัน โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลง 150,000 - 460,000 อัตรา โดยก่อนหน้านี้อัตราจ้างงานร่วงลงหนักสุดที่ 741,000 อัตราในเดือนม.ค. ซึ่งถือมากสุดในรอบ 60 ปี |
. |
ทั้งนี้ หากตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.ลดลงตามคาด อัตราว่างงานรวมในสหรัฐนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเริ่มขึ้นเมื่อเดือนธ.ค.ปี 2550 จะเพิ่มขึ้นเป็น 6.8 ล้านอัตรา ซึ่งถือว่ามากสุดนับตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน |