บ๊อช เดินหน้ารุกตลาดรักษาความปลอดภัย เล็งเจาะกลุ่มโครงการก่อสร้างพื้นฐานทั้งภาครัฐ-เอกชน เผยช่องทางตลาดยังโตได้อีกเพราะเป็นสินค้าจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน
. |
บ๊อช เดินหน้ารุกตลาดรักษาความปลอดภัย เล็งเจาะกลุ่มโครงการก่อสร้างพื้นฐานทั้งภาครัฐ-เอกชน เผยช่องทางตลาดยังโตได้อีกเพราะเป็นสินค้าจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน พร้อมเผยจุดเด่นการให้บริการหลังการขาย และข้อมูลสินค้าที่ชัดเจนคือสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ |
. |
ว่าที่ร้อยตรีสมาน ทาโคตร ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัย บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด เปิดเผยถึงแผนรุกตลาดและแนวทางการทำตลาดของผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัยบ๊อช ในครึ่งหลังของ ปี 2552ว่า ถ้ามองภาพรวมของตลาดและทิศทางของตลาดยังสามารถเติบโตได้แม้สถานการณ์ของเศรษฐกิจจะยังผันผวนและมีความไม่แน่นอนอยู่ก็ตาม ซึ่งจะเห็นได้จาก ในครึ่งแรกของปี 2552 มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น |
. |
โดยทิศทางและการเติบโตของตลาดคงยังขยายตัวได้ดีไปในส่วนของโครงการก่อสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการหรือเอกชน เพราะสินค้าของบ๊อชเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยตรง นอกจากนี้ในส่วนของผู้ใช้รายย่อย เช่นตามบ้านเรือน ร้านค้าต่าง ๆ ตลาดมีการตื่นตัวเช่นกัน จะเห็นได้จากที่ ผ่านมามีการติดตั้งระบบเตือนการบุกรุกและโทรทัศน์วงจรปิดตามร้านค้า และบ้านเรือนทั่วไปมีมากขึ้น |
. |
"บ๊อชเดินหน้าทำตลาด และรุกตลาด โดยร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตร และหุ้นส่วนที่ได้รับ การแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากบ๊อช หรือ Bosch Security Certified Partner (BSCP) ในการที่จะให้การอบรมข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และระบบต่าง ๆ ของบ๊อชอย่างละเอียด รวมถึงอัพเดทข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับแนวโน้มเทคโนโลยีของบ๊อชและตลาดในอนาคต ซึ่งครอบคลุมถึงตลาดต่าง ๆ |
. |
. |
เช่น ด้านการคมนาคม หน่วยงานราชการ หรือ ความปลอดภัยในชุมชน เพื่อที่หุ้นส่วนของเราจะได้มีความสามารถและพร้อมที่จะให้คำแนะนำและบริการแก่ผู้บริโภคได้อย่างมืออาชีพ ทั้งนี้จุดแข็งของบ๊อชอีกด้านหนึ่งคือการที่บ๊อชมีทีมงานขายที่เข้มแข็ง ซึ่งไม่เฉพาะส่วนของบริษัทเอง แต่ยังรวมไปถึงตัวแทนจำหน่ายต่าง ๆ ของบ๊อชด้วย ทำให้บ๊อชได้รับความไว้วางใจจากโครงการใหญ่ ๆ และสำคัญ ๆ ต่าง ๆ มากมาย" ว่าที่ร้อยตรีสมาน กล่าว |
. |
ในส่วนกลุ่มสินค้าที่มีการเติบโตมากที่สุด ได้แก่ CCTV เนื่องจากการตื่นตัวในเรื่องของความปลอดภัย ในทรัพย์สิน และชีวิต ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้มีการโจรกรรมมากขึ้น ส่วนสินค้ากลุ่ม ระบบเตือนการบุกรุก ลูกค้าเริ่มเห็นความจำเป็นของระบบมากขึ้นกว่าเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ส่วนกลุ่มสินค้าระบบเตือนอัคคีภัย หรือ Fire Alarm จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่สถานบันเทิง ทำให้บรรดาเจ้าของสถานบันเทิง กลุ่ม SME ขนาดย่อม เริ่มตื่นตัวในการให้ความสำคัญกับระบบมากขึ้นประกอบกับการบังคับใช้กฎหมายตรวจสอบอาคารที่เริ่มเข้มข้นมากขึ้น |
. |
ในส่วนของการแข่งขันในตลาด ปัจจุบันมีคู่แข่งมากขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้บริโภคเริ่มศึกษาข้อมูลมากขึ้นและมีความรู้เกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยมากขึ้น การนำเสนอข้อมูลสินค้า ถือว่า มีความสำคัญต่อการตัดสินค้าเลือกซื้อสินค้าเป็นอย่างมาก เพราะลูกค้าจะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ และจากเหตุผลดังกล่าวทำให้บ๊อชมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม |
. |
รวมถึงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และระบบที่มีคุณภาพสูง สู่ตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างของนวัตกรรมที่เปิดตัวล่าสุด ก็ได้แก่ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด Extreme CCTV ระบบเทคโนโลยี IP ของโทรทัศน์วงจรปิด และ ตู้เตือนภัย Bosch FireNet ที่ได้มาตรฐาน UL เหมาะสำหรับการใช้ในประเทศไทย |
. |
. |
นอกจากนี้ บ๊อชจะยังเดินหน้าเสริม จุดแข็งและความเป็นผู้นำตลาดของบ๊อชด้วยการเน้น การให้บริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด และการที่บ๊อชมีผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัย ที่หลากหลายทำให้บ๊อชสามารถนำเสนอระบบรักษาความปลอดภัยและทางเลือกต่าง ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและงบประมาณของลูกค้าได้เป็นอย่างดี นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้บ๊อชเป็นผู้ให้บริการระบบสื่อสารและระบบรักษาความปลอดภัยอย่างครบวงจร |
. |
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัยของบ๊อช แยกเป็น 2 กลุ่ม ใหญ่ ๆ คือ กลุ่มระบบเตือนภัยและระบบรักษาความปลอดภัย ได้แก่ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV, ระบบกันขโมย ระบบควบคุมการเข้า-ออก ระบบเตือนอัคคีภัย และระบบ Evacuation มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท การเติบโตของแต่ละกลุ่มอยู่ที่ประมาณ 5-10% ในแต่ละปี กลุ่มที่ 2 เป็นสินค้าทางด้านระบบสื่อสาร |
. |
ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ระบบเสียงอาชีพ ระบบเสียงประกาศสาธารณะ และระบบเสียงประชุมมูลค่าตลาดโดยรวมเฉพาะระบบสื่อสารอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท อัตราการเติบโตของแต่ละกลุ่มประมาณ 5-10% ในแต่ละปี โดยบ๊อชได้รับความไว้วางใจจากสถานที่ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่สำคัญ ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ ศูนย์ประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง รามอินทรา, โรงเบียร์ภูเก็ต เป็นต้น |