เนื้อหาวันที่ : 2009-08-04 09:31:36 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1207 views

คลังดิ้นเร่งเบิกจ่ายงบไตรมาสสุดท้าย เปิดเว็บไซต์ติดตามผลใกล้ชิด

รมช. คลัง เผยผลเบิกจ่ายงบปี 52 ไตรมาส 3 เบิกไปแล้วกว่า 68.3% คุยฟุ้งสูงกว่าเป้าถึง 3.71% เงินไหลเข้าระบบเศรษฐกิจมากขึ้น พร้อมจับตาหน่วยงานที่เบิกจ่ายต่ำใกล้ชิด

รมช. คลังประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดเบิกจ่ายเงิน ผลการเบิกจ่ายงบ 52  สิ้นไตรมาส 3  เบิกแล้ว 1.25 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 68.37 เป็นการเบิกจ่ายในภาคการลงทุนร้อยละ 58.71 สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดร้อยละ 3.71   ทำให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในภาคการลงทุนมากขึ้น  และติดตามหน่วยงานที่มีผลเบิกจ่ายต่ำอย่างใกล้ชิดจากเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง  เพื่อเร่งดำเนินการเบิกเงินที่เหลือในไตรมาสสุดท้าย

.

นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

.

นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเบิกจ่ายเงิน ว่า ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2552  ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เบิกจ่ายไปแล้ว 1,254,550 ล้านบาท หรือร้อยละ 68.37  ของวงเงินงบประมาณ (1,835,000 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายร้อยละ 1.63 (70.00-68.37) 

.

โดยเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ  จำนวน  1,047,324  ล้านบาท  หรือร้อยละ 70.67 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเบิกจ่าย ในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนอยู่ร้อยละ 1.66  สำหรับรายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายได้ 207,226 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.71  ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนอยู่ร้อยละ 6.43 แต่สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 55.00  ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 3.71          

.

และรายงานจากกรมบัญชีกลางภายหลังเชิญหน่วยงานที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำมาประชุมหารือเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 ทราบว่า มีหน่วยงานที่ได้รับงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท  จำนวน 12 หน่วยงาน และเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย  ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น  ต้องเปลี่ยนแปลงรายการ  เปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้าง บางโครงการเป็นงบผูกพันข้ามปีก็ต้องเบิกจากเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีก่อน โดยคาดการณ์ว่าจนถึงสิ้นปีจะเบิกจ่ายได้อยู่ระหว่างร้อยละ 30 - 74 

.

สำหรับงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552มีการเบิกจ่ายแล้วทั้ง 16 โครงการ โดยมีอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 46.08 ของวงเงินงบประมาณ จำนวน 116,700 ล้านบาท  ซึ่งโครงการที่มีอัตราการเบิกจ่ายสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่  โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท (เช็คช่วยชาติคนละ 2,000 บาท)    โครงการ 5 มาตรการ 6 เดือน เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน และโครงการสนับสนุนการจัดการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 15 ปี มีการเบิกจ่ายแล้วร้อยละ 95.86   86.49  และ 82.43  ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในแต่ละโครงการ  ตามลำดับ 

.

เป็นหน่วยงานที่มีผลเบิกจ่ายต่ำ จำนวน 11 หน่วยงานจำนวน  8 โครงการ  ซึ่งได้ดำเนินการตามงวดงานตามแผนแล้ว แต่ผลการเบิกจ่ายต่ำเนื่องจากหน่วยงานได้จ่ายจากเงินทดรองราชการไปก่อนแล้ว จึงเบิกจ่ายจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลัง  ก็ได้ชี้แจงทำความเข้าใจให้เร่งเบิกจ่ายให้ถูกต้องแล้ว ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ประมาณร้อยละ 80 - 95 

.

นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวสรุปในช่วงท้ายว่า  สำหรับการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของ     ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนั้น หน่วยงานต่าง ๆ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและจะเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล  เพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายให้มากที่สุด 

.

ทั้งนี้ คณะกรรมการติดตามฯ  จะยังคงติดตามผลการเบิกจ่ายอย่างใกล้ชิด โดยทางกรมบัญชีกลางจะเชิญหน่วยงานที่มี    ผลการเบิกจ่ายเรียงตามลำดับการเบิกจ่ายจากน้อยไปมาก ทุกสัปดาห์ ซึ่งส่วนราชการสามารถตรวจสอบสถานการณ์เบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานตนเองได้ทางเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง   www.cgd.go.th   เพื่อเปรียบเทียบผลการเบิกจ่ายและเร่งรัดการใช้จ่ายเงินให้เร็วขึ้น