เนื้อหาวันที่ : 2009-08-03 11:59:55 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1393 views

เอเชีย กรีน เอนเนอจี เตรียมเปิดคลังสินค้าใหม่ ก.ย. นี้

เอเชีย กรีน เอนเนอจี เตรียมเปิดคลังสินค้าภาคตะวันออก ก.ย. นี้คาดรองรับถ่านหินได้ถึง 100,000 ตัน เชื่อหนุนยอดขาย-รายได้ในอนาคตเพิ่ม พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 52 เพิ่มอีก 10%

.

บริษัทเอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน)AGE เตรียมเปิดคลังสินค้าภาคตะวันออก กันยายนนี้ เชื่อหนุนยอดขาย-รายได้ในอนาคตเพิ่ม พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี2552 เพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม2,350 ล้านบาท

.

นายสมยศ ฐิติสุริยารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน) หรือAGE หนึ่งในผู้นำเข้าถ่านหินสะอาด(บิทูมินัส)จากประเทศอินโดนีเซีย เพื่อจำหน่ายให้กับภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงการผลิต เปิดเผยว่า คลังสินค้าแห่งและโรงงานคัดแยกถ่านหินแห่งใหม่ในภาคตะวันออกจะแล้วเสร็จ และเปิดดำเนินงานในเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนกันยายน2552 โดยจะสามารถรองรับการจัดเก็บสินค้าได้ประมาณ100,000 ตัน 

.

"ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรคัดแยกถ่านหิน ซึ่งดำเนินการไปแล้วกว่า 60% และคาดว่าจะเริ่มทดลองเครื่องจักรดังกล่าวได้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนที่จะดำเนินการในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการภายในเดือนกันยายน2552" นายสมยศ กล่าว 

.

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นบริษัทฯคาดว่า หากคลังสินค้าภาคตะวันออกแล้วเสร็จ ส่งผลให้บริษัทฯมียอดขายในภาคดังกล่าวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่บริษัทฯมียอดขายเฉพาะภาคตะวันออกอยู่ที่ 138,413 ตันต่อปี คิดเป็นรายได้กว่า 310 ล้านบาท หรือ14%ของรายได้รวมทั้งหมด โดยกลุ่มฐานลูกค้าหลักบริษัทฯยังคงมุ่งเน้นไปยังกลุ่มธุรกิจพลังงาน , ปิโตรเคมี และ อาหาร เนื่องจากอุตสาหกรรมดังกล่าวยังคงมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 

.

"ปัจจุบันบริษัทฯมีคลังสินค้าอยู่แล้ว3 แห่ง ดังนี้ ที่ ตำบลนาดี จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีกลุ่มลูกค้าย่านอุตสาหกรรมในเขตจังหวัดสมุทรปราการ , สมุทรสาคร และเขตอุตสาหกรรมปริมณฑล , คลังสินค้าที่อำเภอ เขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี โดยรองรับกลุ่มลูกค้าในเขตภาคใต้ และภาคตะวันตก ซึ่งคลังสินค้าทั้ง 2แห่ง เป็นโรงงานคัดแยก และคลังเก็บสินค้า ขณะที่จังหวัดอยุธยา เป็นคลังสินค้ารองรับกลุ่มลูกค้ากลางตอนบน , ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" นายสมยศ กล่าว 

.

ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมถ่านหินในช่วงครึ่งปีหลังนั้น ในเบื้องต้นคาดว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมถ่านหินจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากความต้องการถ่านหินยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เป็นอานิสงส์จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และขนาดเล็กต้องปรับตัวหันมาใช้พลังงานทดแทนอย่างถ่านหิน แทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อลดต้นทุน 

.

"โดยส่วนตัวมองว่า หากช่วงครึ่งปีหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้น จะส่งผลดีต่อยอดขายโดยรวมของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังเมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกที่บริษัทคาดว่าจะอยู่ในระดับทรงตัว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบระหว่างราคาถ่านหินในขณะนี้มีส่วนต่างที่ถูกกว่าราคาน้ำมันเตากว่า 40%" นายสมยศ กล่าว 

.

อย่างไรก็ตาม สำหรับประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้รวมในปี2552นั้น บริษัทฯคาดว่า ในเบื้องต้นจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,350 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่บริษัทฯเปิดดำเนินการคลังสินค้าภาคตะวันออก ซึ่งครอบคลุมในพื้นที่หลายจังหวัด อาทิ จ.ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ระยอง, จันทบุรี, ตราด ,ปราจีนบุรี, สระแก้ว เป็นต้น ซึ่งจะสามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ได้เพิ่มขึ้น