นักวิเคราะห์คาดยอดขายรถยนต์ในสหรัฐเดือนก.ค. จะพุ่งแตะ 10.1 ล้านคันต่อปีหลังรัฐบาลประกาศโครงาร CARS มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หวังดึงผู้บริโภคซื้อรถมากขึ้น
. |
นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐประจำเดือนก.ค.จะพุ่งขึ้นแตะ 10.1 ล้านคันต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบปี หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้โครงการ "Car Allowance Rebate System - CARS" (การนำรถยนต์เก่าแบรนด์ดังมาแลกรถยนต์คันใหม่) คิดเป็นมูลค่าโครงการ 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้หันมาซื้อรถยนต์มากขึ้น |
. |
วุฒิสมาชิกเดบบี สตาเบโนว์ เชื่อมั่นว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจคลี่คลายลง และโครงการ CARS ที่เปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ช่วยกระตุ้นผู้บริโภคให้หันมาซื้อรถกันมากขึ้น |
. |
"หลังจากรัฐบาลผลักดันใช้โครงการ CARS เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้บริโภคก็ยื่นขอเงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์มากขึ้น และขณะนี้เรากำลังเรียกร้องสภาคองเกรสและคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้อนุมัติวงเงินเพิ่มเติม" วุฒิสมาชิกสตาเบโนว์กล่าว |
. |
โจ บาร์เกอร์ นักวิเคราะห์จาก CSM Worldwide Inc กล่าวว่า "บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่จะรายงานยอดขายในวันจันทร์ที่ 3 ส.ค. แม้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ยอดขายรถยนต์โดยรวมจะพุ่งขึ้นแตะ 10.1 ล้านคันต่อปี แต่คาดว่ายอดขายรถยนต์ของค่ายเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) จะหดตัว 24%, ไครสเลอร์ กรุ๊ป แอลแอลซี จะดิ่งลง 33% และยอดขายของฟอร์ด มอเตอร์ จะลดลง 6.1% นอกจากนี้ คาดว่ายอดขายของโตโยต้าในสหรัฐจะลดลง 20% ยอดขายของฮอนด้าจะลดลง 19% และยอดขายของนิสสัน มอเตอร์ จะลดลง 29%" |
. |
บลูมเบิร์กรายงานว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ทรุดตัวลง และทำให้ตัวเลขว่างงานในสหรัฐพุ่งสูงขึ้น โดยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ร่วงลงเกินคาด 467,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% ในเร็วๆนี้ |