คลังปิ๊งไอเดียตั้งธนาคารที่ดินและที่อยู่อาศัย ให้ประชาชนยากจนเช่า เล็งดึงเงินสะสมของ อปท. กว่า 1 แสนล้านบาทจัดตั้ง มอบ สศค.ศึกษาแนวคิด
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง |
. |
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงการคลังมีแนวคิดจะจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปัจจุบันกำลังยกร่างกฎหมายเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา และระหว่างนี้ได้เปิดกว้างให้ประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับ พ.ร.บ.ดังกล่าวเสนอความเห็น |
. |
ปรากฏว่ามีข้อเสนอจากคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.) ให้จัดตั้งธนาคารที่ดินและที่อยู่อาศัย โดยนำเงินจากภาษีที่ดินและปลูกสร้างก้อนหนึ่งมาจัดตั้งเป็นธนาคาร เพื่อให้ธนาคารแห่งนี้ทำหน้าที่ซื้อที่ดินและการจัดหาที่ดิน เพื่อการเช่าให้แก่ประชาชนที่ยากจน |
. |
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของการจัดตั้งยังไม่ชัดเจน แต่ถือว่าแนวความคิดนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะประชาชนที่มีรายได้น้อย หรือยากจนจำนวนมากยังขาดแคลนที่อยู่อาศัย ซึ่งเขาสั่งเจ้าหน้าที่ สศค. ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังแล้ว |
. |
เขากล่าวด้วยว่า หลังจาก พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีผลบังคับใช้แล้ว คาดว่ารายได้จากเงินภาษีมากถึงปีละ 9 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงจะมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้บริหาร และจัดการ ดังนั้น การจัดตั้งธนาคารดังกล่าวควรให้ท้องถิ่นเป็นผู้บริหาร แต่หากทำไม่ได้ ก็มีแนวความคิดจะนำเงินส่วนหนึ่งจากท้องถิ่นมาจัดตั้งเป็นธนาคารนี้ เพื่อเข้าไปดูแลคนยากจนทั่วประเทศ ซึ่งแตกต่างจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หรือธนาคารเอกชนที่ปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพราะคนยากจนเหล่านี้ ไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน |
. |
นอกจากนี้ กระทรวงจะเสนอขอนำเงินสะสมขององค์กรปกครองท้องถิ่นที่อยู่ ในการดูแลของกระทรวงมหาดไทยประมาณ 1 แสนล้านบาท มาจัดตั้งเป็นบรรษัทเงินทุนเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ทำหน้าที่เหมือนสถาบันการเงินดูแลท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่ต้องการเงินทุนก่อสร้างสิ่งสาธารณูปโภค แต่ไม่พร้อมด้านเงินทุน โดยไม่ต้องรอเงินงบประมาณอีกต่อไป เพื่อให้ท้องถิ่นมีความคล่องตัวในการใช้จ่ายงบลงทุนกรณีที่จำเป็น |
. |
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ |