รัฐบาลจีนอาจดำเนินมาตรการชะลอความร้อนแรงของตลาดหุ้น เพราะเกรงว่าตลาดจะพุ่งสูงขึ้นในระดับที่รวดเร็วเกินไป |
. |
เมื่อวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนดิ่งลงหนักสุดในรอบ 8 เดือนถึง 5% ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางจะออกมาตรการให้ผู้ปล่อยกู้จัดสรรเงินสำรองเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มว่าเจ้าหน้าที่กำกับดูแลในตลาดจะขึ้นภาษีในการทำธุรกรรมซื้อขายหุ้น |
. |
นักวิเคราะห์จาก Robeco Hong Kong Ltd กล่าวกับทางบลูมเบิร์กว่า "ทางการจีนไม่ค่อยพอใจนักที่เห็นตลาดวิ่งฉิวขนาดนั้น ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ทางการต้องหาวิธีชะลอความเร็วของดัชนี" |
. |
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางจีนก็เตรียมใช้เครื่องมือทางการตลาดเพื่อควบคุมการขยายตัวของสินเชื่อ พร้อมยืนยันว่าจะเดินหน้าผ่อนคลายนโนยบายทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ |
. |
โดยซู หนิง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ว่า "ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ธนาคารกลางจีนจะเน้นการใช้เครื่องมือทางการตลาดแทนการควบคุมปริมาณเงินกู้ เพื่อปูทางการขยายตัวของเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ และกระตุ้นตลาดสินเชื่อให้แข็งแกร่ง" |
. |
บลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดหุ้นจีนพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2551 และยังขยายตัวร้อนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า ขณะที่นักวิเคราะห์เข้าใจว่า ตลาดหุ้นมีสภาพคล่องอยู่เหลือเฟือ ซึ่งทำให้ตลาดพุ่งทะยานอย่างแข็งแกร่ง ดังนั้นธนาคารจึงต้องเริ่มเตือนให้นักลงทุนรู้ว่าจะเริ่มชะลอการออกวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ |
. |
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้เปิดเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านหยวนเมื่อวันที่ 9 พ.ย.และยกเลิกข้อจำกัดด้านการออกเงินกู้เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจหลังจากที่ยอดส่งออกดิ่งลง โดยยอดการปล่อยกู้ล็อตใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปีที่แล้วมาอยู่ในระดับ 7.37 ล้านล้านหยวน |