บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น รายงานผลกำไรสุทธิ 7.56 พันล้านเยนในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.ปีนี้ ดิ่งลง 95.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการยานยนต์หดตัวลงทั่วโลก อย่างไรก็ตามกำไรไตรมาสแรกของฮอนด้ายังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจขาดทุน |
. |
สำหรับผลกำไรจากการดำเนินงานในช่วงไตรมาสดังกล่าวของปีงบการเงินปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2553 อยู่ที่ 2.52 หมื่นล้านเยน ลดลง 88.0% จากปีก่อน จากยอดขาย 2.0 ล้านล้านเยน ลดลง 30.2% |
. |
ทั้งนี้ แม้กำไรทรุดฮวบลง แต่ฮอนด้าก็ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรปี 2552 เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นช่วยหนุนยอดขายรถยนต์ประหยัดพลังงานของฮอนด้า โดยฮอนด้าคาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะมีอยู่ทั้งสิ้น 5.5 หมื่นล้านเยน หรือ 584 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่ประเมินก่อนหน้านี้ที่ 4.0 หมื่นล้านเยน |
. |
มาโมรุ คาโตะ นักวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยโตเกอิ โตเกียว กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐ เยอรมนี ญี่ปุ่น และจีน ต่างประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน อีกทั้งใช้นโยบายลดหย่อนภาษี และสนับสนุนการนำรถยนต์เก่ามาแลกกับรถยนต์ใหม่รุ่นที่ประหยัดพลังงาน โดยนโยบายเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มดีมานด์รถยนต์ หลังจากดีมานด์รถยนต์ทั่วโลกหดตัวลงอย่างหนักจนเป็นเหตุให้เจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ แอลแอลซี ล้มละลาย |
. |
บลูมเบิร์กรายงานว่า ฮอนด้าได้ลดปริมาณการผลิตเพื่อระบายรถยนต์ในสต็อกให้อยู่ในปริมาณที่สอดคล้องกับดีมานด์ ส่วนผลผลิตรถยนต์ของฮอนด้าเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 11 และในช่วง 6 เดือนแรกบริษัทผลิตรถยนต์ได้ทั้งสิ้น 1.32 ล้านคัน ลดลง 34% โดยยอดขายรถยนต์ในยุโรปร่วงลง 12% ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน |