ผู้นำสหรัฐและจีนให้คำมั่นจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป เพื่อสร้างสมดุลในระบบการค้าโลก หวังแก้ปัญหาระบบการเงิน วางรากฐานรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ผู้นำสหรัฐและจีนต่างให้คำมั่นในระหว่างการเจรจายุทธศาสตร์และเศรษฐกิจสหรัฐ-จีนเป็นเวลา 2 วันตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป และจะช่วยแก้ปัญหาภาวะไร้สมดุบด้านการค้าและการลงทุนที่มีส่วนทำให้เกิดวิกฤตไปทั่วโลก |
. |
นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ |
. |
นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวภายหลังจากประชุมว่า จีนและสหรัฐจำเป็นต้องทำตามความมุ่งมั่นของตนเองในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบการเงิน และวางรากฐานรองรับกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่นายหวาง จีชาน รองนายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า จีนและสหรัฐจะกดดันให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวต่อไป |
. |
แม้ว่า ที่ประชุมครั้งนี้จะส่งสัญญาณของความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันในเรื่องเงินหยวน และการเข้าถึงตลาดในสมัยที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นผู้นำสหรัฐ เหล่านักวิเคราะห์ต่างสงสัยว่า รัฐบาลสหรัฐและจีนจะสามารถผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างสมดุลได้หรือไม่ ขณะที่สหรัฐให้คำมั่นว่า จะควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณ และกระตุ้นการออมของภาคครัวเรือน ส่วนจีนก็ให้คำมั่นว่าจะพึ่งพาดีมานด์ในต่างประเทศน้อยลง |
. |
บลูมเบิร์กรายงานว่า ฮุย แมคเคย์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเวสต์แพค แบงกิ้ง คอร์ป กล่าวว่า แถลงการณ์เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดแนวโน้มที่ดี แต่เราก็ยังไม่สามารถวางใจได้ เพราะกว่ามาตรการต่างๆจะเห็นผลต้องใช้เวลา |