เนื้อหาวันที่ : 2009-07-23 17:49:38 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1952 views

เกาหลีใต้เล็งใช้มาตรการสกัดเก็งกำไรตลาดอสังหาฯ หลังพบยอดปล่อยกู้ซื้อบ้านพุ่งแรง

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมใช้มาตรการควบคุมการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังยอดปล่อยกู้ภาคครัวเรือนพุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี หวั่นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อาจทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาฯ

นายชุง จอง วาน รมว.ฝ่ายกิจการอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง และการขนส่งทางเรือ ของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่าภายในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์นี้ รัฐบาลเกาหลีใต้จะใช้มาตรการควบคุมการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์            

.

"รัฐบาลเล็งเห็นว่ามีการเก็งกำไรเกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในบางพื้นที่ ซึ่งเราไม่ต้องการให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่มีทั้งด้านลบและด้านบวกทำให้รัฐบาลต้องใช้เวลาก่อนที่จะดำเนินการใดๆต่อไป แต่จนถึงขณะนี้ต้องยอมรับว่ารัฐบาลรู้สึกกังวลต่อแนวโน้มในตลาดอสังหาริมทรัพย์" นายชุงกล่าว แต่ไม่ได้ระบุว่าจะใช้มาตรการใดเป็นพิเศษในการควบคุมการเก็งกำไร 

.

นายลี ซอง แต ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ กล่าวว่า ธนาคารกลางกำลังจับตาดูการปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านและราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา โดยในเดือนมิ.ย.อัตราการปล่อยกู้ให้กับภาคครัวเรือนพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี พร้อมระบุว่าการที่อัตราดอกเบี้ยถูกปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อาจทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ 

.

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดในการปล่อยกู้ให้กับประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านในกรุงโซลและเมืองต่างๆรอบกรุงโซล โดยผู้ซื้อที่ต้องการซื้อบ้านมูลค่าสูงกว่า 600 ล้ายวอน หรือ 480,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะได้รับอนุญาตให้กู้เงินได้ไม่เกิน 50% ของราคาบ้าน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่ 60% 

.

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของเกาหลีใต้มีแนวโน้มขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี จากอานิสงส์ของการใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและการปรับลดดอกเบี้ยลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งช่วยสร้างรากฐานการฟื้นตัวที่มั่นคงทางเศรษฐกิจ 

.

นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ไตรมาส 2 ของเกาหลีใต้จะขยายตัวขึ้น 2.2% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ขยายตัวเพียง 0.1% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียที่มีทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับจีนและสิงคโปร์

.

หลังจากที่เคยมีความวิตกกังวลต่อภาคเอกชนว่าจะไม่สามารถจ่ายหนี้ต่างประเทศได้ แต่เกาหลีใต้ก็สามารถหาทางออกจากวิกฤตดังกล่าวด้วยการทำข้อตกลงสว็อปค่าเงินดอลลาร์กับสหรัฐ และอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคาร รวมถึงกระตุ้นการใช้จ่ายและจัดตั้งเงินทุนให้ธนาคารพาณิชย์และปรับลดดอกเบี้ย 

.

โดยรัฐบาลได้ใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายเพิ่มกว่า 67 ล้านล้านวอน (5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งได้กระตุ้นให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมิ.ย.ไต่ระดับขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3.25% ในช่วงเดือนต.ค.2551-ก.พ.2552 มาอยู่ที่ระดับ 2% บลูมเบิร์กรายงาน