เนื้อหาวันที่ : 2009-07-23 13:54:33 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1978 views

ตลาดหุ้นยุโรปมีแววขยายตัว 11% ครึ่งปีหลัง

ตลาดหุ้นยุโรปช่วงครึ่งปีหลังมีแววพุ่งขึ้นร้อนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549 จากอานิสงส์ผลประกอบการ บ.เอกชนแข็งแกร่ง ช่วยกระตุ้นบรรยากาศ

.

ตลาดหุ้นยุโรปช่วงครึ่งปีหลังมีแววพุ่งขึ้นร้อนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549 เพราะผลกำไรของบริษัทเอกชนที่ดีขึ้นซึ่งจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาดดังกล่าว                             

..

นักวิเคราะห์ตลาดยุโรปจากโพลล์สำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีชี้วัดการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มไต่ระดับขึ้น 11% ในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐคาดว่าดัชนี Standard & Poor’s 500 จะขยายตัว 8.4%

.

รายได้ของบริษัทเอกชนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยกระตุ้นมูลค่าหุ้นให้ขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2546 และจะดึงดูดใจเงินของนักลงทุนมากขึ้นเช่นกัน หลังจากดัชนี Dow Jones Stoxx 600 Index ตกลงอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ 46% ในปีที่ผ่านมา 

.

นักวิเคราะห์จาก Cholet-Dupont Gestion SA ในกรุงปารีสกล่าวว่า "การพุ่งขึ้นของดัชนีจะเชื่อมโยงกับรายงานผลประกอบการภาคเอกชน และการเปิดเผยรายได้ของบริษัทเอกชนในระยะนี้ก็ช่วยยืนยันถึงแนวโน้มดังกล่าวได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตลาดยังคงรอให้มีการอัดฉีดเม็ดเงินทุนเข้าสู่ระบบอีกระลอก แต่หากบริษัทเอกชนมีสัญญาณบ่งชี้ที่ดีก็จะช่วยส่งผลดีต่อตลาดหุ้นด้วย" 

.

บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกถดถอยครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังสิ้นสุดลงซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ช่วยให้ดัชนีพุ่งขึ้น 8.7% ในปีนี้ 

.

ทั้งนี้ บริษัทชื่อดังที่รายงานผลประกอบการสูงเกินคาดได้แก่ โนเกีย ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยรายได้สุทธิ 380 ล้านยูโร ส่วนโรยัล ฟิลิป อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของยุโรปมีกำไรรายไตรมาสมากขึ้น พร้อมคาดว่ายอดขายช่วงครึ่งปีหลังอาจสูงกว่าช่วงครึ่งปีแรก