เนื้อหาวันที่ : 2009-07-15 16:04:07 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1116 views

บอร์ด กนง.มีมติคงดอกเบี้ยอาร์/พี แต่ยังไม่ส่งสัญญาณถึงจุดต่ำสุด

คณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.25% ต่อปีต่อไปอีก เหตุเศรษฐกิจมีสัญญาณเร่งตัวขึ้น ระบุจะติดตามความเสี่ยงของเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด

.

คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันนี้มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.25% ต่อปีต่อไปอีก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยมีสัญญาณเร่งตัวขึ้น แต่ยังไม่ส่งสัญญาณดอกเบี้ยนโยบายว่าต่ำสุดหรือยัง โดย กนง.จะติดตามความเสี่ยงของเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมที่จะเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไป

.

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ที่ประชุม กนง.พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรวมทั้งแนวโน้มในระยะต่อไปเพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นสำคัญ คือ วิกฤตการณ์การเงินโลกยังคงส่งผลต่อเนื่องให้เศรษฐกิจของประเทศหลักและประเทศในภูมิภาคเอเชียอ่อนตัว 

.

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจโลกและสถานการณ์การเงินระหว่างประเทศค่อย ๆ ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นบ้างเมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อน โดยอัตราการหดตัวทางเศรษฐกิจเริ่มลดลง แต่ก็ยังมีความเปราะบางอยู่บ้าง นอกจากนั้น นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและนโยบายกระตุ้นทางการคลังในหลายประเทศจะช่วยเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกต่อไป 

.

คณะกรรมการฯ ประเมินว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นหากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่องและแรงกระตุ้นจากนโยบายการคลังเริ่มส่งผลมากขึ้น ประกอบกับนโยบายการเงินในปัจจุบันยังคงผ่อนคลายซึ่งจะสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายใต้สภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ

.

"เศรษฐกิจไทยและโลกหดตัวน้อยกว่าเดิม ถ้า momentum เศรษฐกิจโลกยังมี ก็จะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ คืออย่างน้อยก็เห็นว่าเศรษฐกิจโลกเห็นสัญญาณขยับขึ้น...ไตรมาส 2 เครื่องชี้ดีกว่าไตรมาสแรกมาก เงินเฟ้อยังไม่มีประเด็นทั้งโลกและไทย ตอนนี้นโยบายการเงินไม่จำเป็นต้องส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยจะต่ำสุดหรือจะเร่งตัวขึ้นหรือยัง ดังนั้น การประชุมกนง.ครั้งหน้าจะดูว่าถ้ามีความเสี่ยงเศรษฐกิจที่จะต้องลดดอกเบี้ย กนง.ก็พร้อมจะลด"นายไพบูลย์ กล่าว 

.

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ธปท.จะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 52 ในรายงานแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่จะเผยแพร่ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ จากสัญญาณเศรษฐกิจที่ดีขึ้นตามเครื่องชี้วัดต่าง ๆ  แม้จะมีกรณีไข้หวัด 2009 จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าขอบเขตและความรุนแรงของปัญหาจะกระทบกับเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน 

.

ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปล่าสุดเดือน มิ.ย.ที่ติดลบ 4% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ต่ำกว่ากรอบของ กนง.นั้น ไม่ได้ทำให้ กนง.ตกใจกับเงินเฟ้อ เพราะสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการมาตรการช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน ที่ขณะนี้ทางการได้ต่ออายุออกไปอีก 6 เดือน ดังนั้น หากลบปัจจัยส่วนนี้ไปอัตราเงินเฟ้อก็ยังอยู่ในกรอบนโยบายการเงิน จุดนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ กนง.ยังไม่ปรับดอกเบี้ย   

.

สำหรับกรณีที่กระทรวงการคลังปรับเพิ่มวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์เป็น 8 หมื่นล้านบาท จากเดิมกำหนดไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาท ยังไม่จำเป็นที่ ธปท.จะต้องอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเพิ่มเติม เพราะรัฐต้องนำเงินจากการออกพันธบัตรไปใช้จ่ายและเกิดการหมุนเวียนภายในประเทศอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องในประเทศ แต่หากเกิดภาวะตึงตัว ธปท.ก็พร้อมอัดฉีดเข้าไป