เนื้อหาวันที่ : 2006-11-07 11:31:11 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 4104 views

สยามอุตสาหกรรมและการผลิต หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านโลหะภัณฑ์

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ในธุรกิจด้านการ ตัด เจาะ พับ โลหะภัณฑ์ทุกชนิด

                             

 .

 

คุณเกรียงศักดิ์ สมนิมิตร

ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและงานขาย

บริษัท สยามอุตสาหกรรมและการผลิต จำกัด

.

บริษัท สยามอุตสาหกรรมและการผลิต จำกัด หนึ่ง ในบริษัทผู้นำด้านการ ตัด เจาะ พับ โลหะภัณฑ์ทุกชนิด ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ของทีมงานบริหารและการผลิตแบบมืออาชีพ ณ วันนี้ บริษัทได้ก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าทางด้าน ผลิตภัณฑ์ควบคุมระบบไฟฟ้า อาทิเช่น ตู้วงจร ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า ตู้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนงาน OEM ที่มีคุณภาพและประสิทธิผลการใช้งานสูง นอกเหนือจากนั้น บริษัท ฯ ยังได้มีการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังเสริมทีมงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที

..

จากความสำเร็จดังกล่าวของ บริษัท สยามอุตสาหกรรมและการผลิต จำกัด คอลัมน์ Interview ฉบับนี้จะนำพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับ คุณเกรียงศักดิ์ สมนิมิตร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและงานขาย ซึ่งได้ให้เกียรติมาพูดคุยกันถึงความเป็นมาของบริษัท ฯ วิสัยทัศน์ทางด้านการดำเนินงาน การเติบโตของผลิตภัณฑ์ แนวโน้มและทิศทางของธุรกิจในอนาคต

.

.

ITR : จุดเริ่มต้นของสยามอุตสาหกรรมและการผลิต มีความเป็นมาอย่างไร ?

คุณเกรียงศักดิ์ : สยามอุตสาหกรรมและการผลิต ได้ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2515 ซึ่งนับถึงวันนี้ บริษัทเรามีอายุมากว่า 30 ปีแล้ว แต่แรกเดิมทีเราทำธุรกิจเกี่ยวกับด้าน ตู้สวิตช์บอร์ด และตู้ที่ใส่อุปกรณ์ไฟฟ้าแรงดันต่ำ ต่อมาได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนสินค้าของเรามีความหลากหลายมากขึ้น จนถึงการรับจ้างทำพาร์ทชิ้นส่วนต่าง ๆ (OEM Parts) และขยายไปครอบคลุมในส่วนงานทางด้านโทรคมนาคม ประเภทตู้ Rack และด้วยการทำงานที่คำนึงถึงคุณภาพและมาตรฐานการทำงานที่ชัดเจนนี้ ทำให้เราได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001: 2000 และคาดว่าจะได้รับมาตรฐาน ISO 14001 ภายในปีนี้ รวมถึงมาตรฐาน MSQWL ด้วย ซึ่งเป็นมาตรฐานทางด้านความปลอดภัย

.

.
ITR : ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีอะไรบ้าง ?

คุณเกรียงศักดิ์ : สินค้าของเรา ณ วันนี้จะมีค่อนข้างเยอะมาก เช่น ตู้สวิตช์บอร์ด ตู้แขวนผนัง ตู้คอนโซลเฉียง ตู้ Rack 19 นิ้ว รางวางสายเคเบิ้ล รวมถึงงานผลิตชิ้นส่วน OEM และน้องใหม่ที่กำลังทำตลาดอยู่ตอนนี้ก็จะเป็นตู้พลาสติก ABS ยี่ห้อ Ritto เป็นต้น ซึ่งหน้าตาสินค้าจะคล้าย ๆ กัน ส่วนสินค้าที่ขายดีตอนนี้จะเป็นตู้สวิตช์บอร์ด ยี่ห้อ CONTRA ซึ่งความพิเศษของตู้นี้ก็คือจะเป็นระบบน็อคดาวน์แบบถอดประกอบได้ ข้อต่อจะทำจากอะลูมิเนียมอัลลอย ซึ่งต่างจากแบบเดิมที่เป็นเหล็กเชื่อมประกอบกันเป็นโครงตู้แล้วมีฝาปิดด้วยการขันสกรู ซึ่งความได้เปรียบของตู้สวิตช์บอร์ดแบบนี้ก็คือความแข็งแรงทนทาน อีกตัวที่ขายดีคือ Wall Mounting Cabinet หรือเรียกว่า ตู้แขวนผนังติดกำแพงก็จะมีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ อีกตัวที่มาแรงมากในปีนี้คือ Rack 19 นิ้ว ซึ่งเป็นตู้มาตรฐานสำหรับใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และในส่วนของงานของ OEM Parts นั้น แบรนด์ดัง ๆ หลายแบรนด์ในประเทศไทย ได้ไว้วางวางใจให้เราเป็นผู้รับจ้างผลิต ตั้งแต่ชิ้นส่วนแอร์ ชิ้นส่วนฝา Panel เครื่องเย็น ตู้โค้ก งานเฟอร์นิเจอร์ ตู้โชว์ เป็นต้น โดยเรารับทำตั้งแต่กระบวนการออกแบบจนสิ้นสุดกระบวนการเลย และอีกผลิตภัณฑ์ หนึ่ง ที่เราทำการโฆษณาอยู่ก็คือตู้พลาสติกยี่ห้อ Ritto ตัวนี้เป็นสินค้าไฮเอนด์ ซึ่งผู้ใช้งานจะมั่นใจได้ในคุณภาพและความทนทาน ซึ่งที่กล่าวมาเป็นแค่เพียงตัวอย่างสินค้าของเราครับ

.

.
ITR : ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมามีจุดแข็งอย่างไรบ้าง ?

คุณเกรียงศักดิ์ : ถ้ากล่าวถึงจุดแข็งในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมานั้น ก็คงต้องจะเป็นเรื่องของคุณภาพของสินค้าและความแข็งแรงทนทานในการนำไปใช้งานของลูกค้าเป็นหลักครับ แต่ถ้ากล่าวถึงจุดแข็งอื่นที่ช่วยให้สินค้าของเรามีคุณภาพ ก็คงต้องมองกลับมาถึงในเรื่องของวิสัยทัศน์การดำเนินงานของเรามากกว่า ซึ่งจะให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นอันดับต้น ๆ ว่าต้องได้สินค้าที่มีคุณภาพดี ปลอดภัยกับการใช้งาน ดังนั้นวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตสินค้าของเราจะเลือกเฉพาะวัสดุที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันประเภทสินค้าของเราจะถูกเปรียบเทียบเยอะมากในเรื่องของราคา เพราะคู่แข่งในตลาดสินค้าประเภทนี้ได้ทำการลดสเปกของวัสดุที่ใช้ทำผลิตภัณฑ์ ทำให้ได้ราคาสินค้าที่ถูกลง ดังนั้นกลุ่มผู้ซื้อสินค้าของเราจะเน้นในส่วนของตัวผู้ใช้งานจริง ๆ มากกว่า ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องการเน้นในเรื่องคุณภาพสินค้าและความปลอดภัยในการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ

.

.
ITR : กลุ่มอุตสาหกรรมหรือตลาดที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ รวมถึงแนวโน้มความต้องการเป็นอย่างไร ?

คุณเกรียงศักดิ์ : สำหรับกุล่มอุตสาหกรรมที่มีความต้องการทางด้านผลิตภัณฑ์ของเรานั้น จะมีตั้งแต่กลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์ที่นำไปใช้ในบ้านเรือน โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการปรับปรุงหรือต่อเติมโรงงานหรือแม้กระทั่งโรงงานอุตสาหกรรมที่สร้างใหม่ไปจนถึงงานระดับเมกะโปรเจกต์ ที่ต้องใช้ตู้ควบคุมไฟฟ้า ตู้ใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้แต่รางวางสายไฟ ที่กลุ่มผู้รับเหมาหรือ Sub-contract ต่าง ๆ ได้ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของเราตลอดมา อย่างที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าก็จะมีตั้งแต่ ธนาคาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า การไฟฟ้า ไปจนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ดังนั้นกลุ่มตลาดที่ต้องการผลิตภัณฑ์ของเรานั้นจะค่อนข้างหลากหลายครับ แต่ส่วนของแนวโน้มความต้องการใช้สินค้าในปีนี้ จะค่อนข้างทรงตัวถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากปัญหาหลายอย่าง ทั้งในเรื่องของการเมืองที่ยังอึมครึมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งต่อเนื่องไปยังการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนยังไม่กล้าลงทุนเพิ่มเติมนัก ความต้องการใช้สินค้าจึงลดลง

.

.
ITR : บริษัท ฯ มีแผนการดำเนินงานในด้านผลิตภัณฑ์ การจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นอย่างไรบ้าง ?

คุณเกรียงศักดิ์ : สำหรับแผนการดำเนินงานทางด้านผลิตภัณฑ์ในปีนี้ เราจะให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลักครับ มีการพบปะพูดคุยกับลูกค้าของเรามากขึ้น มีการทำกิจกรรมร่วมกันในส่วนของลูกค้าในลักษณะของการทำแรลลี่และโรดโชว์ต่างจังหวัด รวมไปถึงการให้ความรู้ในเรื่องของผลิตภัณฑ์ ซึ่งในส่วนโปรโมชั่นการสั่งซื้อของลูกค้าก็จะมีการสะสมยอดการสั่งซื้อเมื่อสิ้นปีหรือครบยอดสะสมก็จะมีโบนัสตามที่ได้วางไว้ หรือแม้แต่ในส่วนของตัวผลิตภัณฑ์ Ritto เองที่กำลังทำตลาดอยู่ขณะนี้ก็จะมีเป็นการจับคูปองลุ้นรางวัลทองคำสำหรับผู้ที่ซื้อสินค้า Ritto ครบทุก 300 บาท เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งในปีนี้เราตั้งเป้ารายได้เติบโตจากผลิตภัณฑ์ของเราไว้ที่ 30% ครับ

.

.
ITR : แนวโน้มทิศทางธุรกิจของบริษัท ฯ และความสามารถในการแข่งขันในตลาดโดยรวมเป็นอย่างไร ?

คุณเกรียงศักดิ์ : อย่างที่กล่าวมาข้างต้น เราเจออุปสรรคในเรื่องของความต้องการสินค้าที่มีลดลง อันเนื่องมาจากปัญหาทางการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจ แต่ในส่วนของเราเองกลับมีรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน ด้วยแผนการตลาดและการทำโปรโมชั่นที่ดุเดือดขึ้น ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มผู้ซื้อที่หันมาให้ความไว้วางใจในสินค้าของเรามากขึ้นกว่าคู่แข่งนั่นเอง ดังนั้น ด้วยปรากฏการณ์เช่นนี้ ทำให้เรามีความเชื่อมั่นได้ว่า เราจะสามารถแข่งขันกับตลาดโดยรวมได้อย่างแน่นอนครับ

.

.

และนี่เป็นส่วนหนึ่งความสำเร็จของ สยามอุตสาหกรรมและการผลิต ภายใต้นโยบายการดำเนินงาน เรามุ่งมั่นสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า โดยการผลิตสินค้าคุณภาพ จัดส่งตรงเวลา และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจและศักยภาพของสินค้า คงจะเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ บริษัท สยามอุตสาหกรรมและการผลิต จำกัด ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมปัจจุบัน