|
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "นโยบายและทิศทางการค้าเสรีของไทย" ในงานเสวนาเรื่อง "ผลกระทบและการเยียวยาของการค้าเสรี(FTA)" ที่จัดโดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา ว่า การเจรจาการค้าเสรีในระดับทวิภาคีของรัฐบาลก่อนๆ ทำโดยขาดยุทธศาสตร์ เนื่องจากพบว่าบางข้อตกลงส่งผลให้สินค้าบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์ เช่น กลุ่มโทรคมนาคม แต่สินค้าเกษตรกลับได้รับผลกระทบอย่างหนัก |
| . |
|
ทั้งนี้ รัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาในจุดนี้และพร้อมติดตามข้อตกลงที่มีความผิดพลาด โดยจะร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้แทนการค้าไทยติดตามและแก้ไข ขณะเดียวกันจะเร่งทำความเข้าใจกับฝ่ายนิติบัญญัติที่มีหน้าที่ดูแลการเจรจาการค้าตามมาตรา 190 ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปี 50 ที่กำหนดไว้ให้ข้อตกลงระหว่างประเทศต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน |
| . |
|
"การเจรจาระดับทวิภาคีของรัฐบาลก่อนๆ ขาดยุทธ์ศาสตร์ ขาดการวิเคราะห์ถึงความสำคัญว่าควรเจรจากับประเทศใดก่อนหรือหลัง ไม่ดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ คิดถึงแต่เพียงการผลักดันให้เป็นไปตามความสะดวกมากกว่าจะเอาประโยชน์และภาพรวมของเศรษฐกิจ"นายกรัฐมนตรี กล่าว |
| . |
|
นางอัญชนา วิทยาธรรมธัช รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรี ภายใต้กองทุนเอฟทีเอ โดยมีงบประมาณดำเนินการ ปี 50-52 รวม 240 ล้านบาท โดยปัจจุบันได้อนุมัติงบช่วยเหลือแล้ว 17 โครงการ วงเงิน 125 ล้านบาท เช่น สินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องหนัง, ธุรกิจอาหาร เป็นต้น |
| .. |
|
ขณะที่ในปี 53 คาดว่ากองทุนเอฟทีเอจะได้รับงบประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มผู้ประกอบการที่สนใจขอรับความช่วยเหลือแล้ว เช่น ข้าว, ธุรกิจสปา, รองเท้า, สับปะรด, นมโคสด-โคเนื้อ เป็นต้น |
Thailandindustrycom_official
