เนื้อหาวันที่ : 2009-07-01 10:00:46 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2000 views

นักวิเคราะห์ชี้จีนขึ้นราคาน้ำมันกระทบผู้ขับขี่แต่เศรษฐกิจกระทบในวงจำกัด

จีนประกาศขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล และน้ำมันเครื่องบินสูงถึง 11% อ้างเพื่อให้สอดคล้องกับราคาในตลาดโลก นักวิเคราะห์ชี้กระทบผู้บริโภคแน่นอน แต่กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไม่มาก

นักวิเคราะห์มองว่า การประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงครั้งล่าสุดของจีนเมื่อวานนี้จะส่งผลกระทบอย่างแน่นอนต่อผู้บริโภค แต่อาจจะส่งผลกระทบไม่มากนักต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน เมื่อวานนี้ จีนได้ขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล และน้ำมันเครื่องบินสูงถึง 11% นับเป็นการขึ้นราคาเชื้อเพลิงครั้งที่ 3 แล้วในปีนี้ และยังเป็นการขึ้นราคาเชื้อเพลิงถึง 2 ครั้งในเดือนมิ.ย. ซึ่งการขึ้นราคาน้ำมันดังกล่าวก็เพื่อให้สอดคล่องกับความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลก              

.

หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ รายงานว่า เหอ หยี่ นักเขียนระบุว่า ถึงเวลาที่ประชาชนจะต้องประหยัดกันแล้ว โดยขาเองก็ตั้งใจว่าจะใช้แอร์น้อยลงในช่วงที่ขับรถ แม้ว่าสภาพอากาศในปักกิ่งจะร้อนจัดก็ตาม 

.

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างผลการสำรวจของเว็บท่าอย่าง Sina.com ระบุว่า ประชาชนมากกว่า 90% ที่ตอบรับแบบสอบถามตัดสินใจที่จะใช้รถน้อยลง เพื่อรับมือกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และอีกกว่า 94% คิดว่า ตอนนี้ราคาเชื้อเพลิงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป 

.

คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปของจีนระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินอ็อคเทน 90 ตามปั๊มน้ำมันที่กรุงปักกิ่ง ราคาอยู่ที่ 5.71 หยวนต่อลิตร หรือประมาณ 3.16 ดอลลาร์ต่อแกลลอน เมื่อเปรียบเทียบกับราคาน้ำมันในสหรัฐโดยเฉลี่ยที่ 2.69 ดอลลาร์ต่อแกลลอน 

.

ทั้งนี้ ราคาขายปลีกเชื้อเพลิงของจีนอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลซึ่งใช้กลไกที่มีการนำมาใช้เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องราคาน้ำมันดิบ ภาษี และสัดส่วนกำไรของกลุ่มผู้กลั่นน้ำมันด้วยเช่นกัน 

.

อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์เชื่อว่า การขึ้นราคาน้ำมันรอบนี้จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงและเด่นชัดต่อเศรษฐกิจจีน ซึ่งใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน 

.

หลิน ปัวเกียง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพลังงานของมหาวิทยาลัยเซียะเหมิน กล่าวว่า ในขณะที่จีนต้องการน้ำมันเพื่อป้อนการบริโภคภายในประเทศ 20% ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นคงจะไม่ทำให้สถานการณ์โดยรวมแย่เหมือนกับที่ราคาถ่านหินปรับตัวสูงขึ้น แต่เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบแน่นอน หากว่าราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นทำให้ราคาถ่านหินสูงตามไปด้วย