พีดี เฮ้าส์ เผยปีนี้ไม่ใช่ปีรุกโกยยอดขายเพราะเศรษฐกิจไม่เอื้อ พร้อมหันมาเน้นขยายฐานลูกค้าและตลาดให้กว้างขึ้น แนะผู้ประกอบการควรรู้จักการถอยตั้งรับและปรับตัวเอง
| . |
|
คาดการณ์ตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลยังไม่ฟื้น ส่งผลให้อุณหภูมิการแข่งขันร้อนแรงต้อนรับไตรมาส 3 โดยเฉพาะรายกลางรายใหญ่ที่ต้องการรักษายอดขายหรือแชร์ส่วนแบ่งตลาดของตัวเองเอาไว้ ต่างโหมจัดโปรโมชั่น ลด แจก แถม เปิดศึกแย่งลูกค้ากันดุเดือดที่สุดในรอบ 5-6 ปี |
| . |
|
พีดี เฮ้าส์ เผยปีนี้ไม่ใช่ปีรุกโกยยอดขายเพราะเศรษฐกิจไม่เอื้อ พร้อมหันมาเน้นขยายฐานลูกค้าและตลาดให้กว้างขึ้น รอเศรษฐกิจฟื้นพร้อมบุกตลาดปีหน้า แนะผู้ประกอบการควรรู้จักการถอยตั้งรับและปรับตัวเอง เชื่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน ไม่ได้ต้องการแค่บ้านคอนกรีตเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเท่านั้น |
| . |
|
แต่ต้องการดีไซน์ที่โดนใจ เซอร์วิสหรือบริการ การตอบสนองไลฟ์สไตล์ และคุณภาพสินค้าที่แตกต่าง หากมุ่งลดคุณภาพหรือบริการลงถือว่าถอยห่างออกจาก "จุดแข็งของความเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน" ทำให้คุณภาพบ้านไม่แตกต่างกับบ้านจัดสรรทั่วไป เชื่อส่งผลเสียต่อภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านในระยะยาว ประเมินปีนี้ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลหดตัว 30% |
|
. |
|
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ พีดี เฮ้าส์ เปิดเผยว่า แนวโน้มการแข่งขันตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลังเชื่อว่าดุเดือด สังเกตจากบริษัทรับสร้างบ้านทั้งรายกลางรายใหญ่ต่างจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายกันในช่วงท้ายไตรมาส 2 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 3 โดยแต่ละค่ายมีทั้งส่วนลดราคาบ้าน 10-20% หรือแจกทองคำมูลค่าสูงสุดนับล้านบาท |
| . |
|
สะท้อนให้เห็นว่าปริมาณความต้องการสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลลดลง และส่งผลกระทบต่อยอดขายของผู้ประกอบการลดลงตาม จึงต้องโหมจัดโปรโมชั่นหวังกระตุ้นกำลังซื้อและเร่งยอดขายให้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ |
| . |
|
ในขณะที่รายเล็กดูจะไม่พร้อมแข่งขันเพราะสายป่านสั้นกว่า ต่างถอยตั้งรับและปรับลดค่าการตลาดลงถ้วนหน้า คาดโฆษณาของบริษัทรับสร้างบ้านรายเล็ก ตามสื่อสิ่งพิมพ์ในปีนี้จะหายไปกว่า 50% ปัจจัยดังกล่าวจะยิ่งเป็นการลดโอกาสที่จะเข้าถึงลูกค้าของตัวเอง และแข่งขันเสียเปรียบรายใหญ่มากขึ้น |
| . |
|
อย่างไรก็ดีการแข่งลดราคาและลดคุณภาพถือว่าไม่เป็นผลดีต่อภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้าน เพราะหากผู้ประกอบการเลือกทำตลาดด้วยวิธีนี้ ก็เท่ากับสินค้าจะไม่แตกต่างจากบ้านจัดสรรทั่วไป ต้องไม่ลืมว่า "จุดแข็ง" ของความเป็นบริษัทรับสร้างบ้านคือ ดีไซน์ที่แตกต่าง เซอร์วิสหรือบริการก่อนและหลังการขาย การตอบสนองไลฟ์สไตล์ สินค้าหรือบ้านที่ก่อสร้างคุณภาพสูง ฯลฯ ฉะนั้นควรศึกษาและทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของผู้บริโภคให้มากขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ใช่ต้องการเพียงแค่บ้านคอนกรีตรูปร่างแบบกล่องสี่เหลี่ยมเท่านั้น |
| . |
|
"ประเมินว่าปริมาณความต้องการสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลปี 2552 จะลดลง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้เพราะผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศไทย ที่ถดถอยรุนแรงจากปีก่อนและต่อเนื่องมาปีนี้ ประกอบกับช่วงนี้ยังอยู่ในภาวะตลาดขาลงของภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้าน |
| . |
|
ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะพยายามออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรับสร้างบ้านจะพยายามโฆษณาและประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ภาพของธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นที่รู้จักและยอมรับมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าความกังวลของผู้บริโภคต่อสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นคืนมาเท่าไรนัก ทำให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคส่วนใหญ่ชะลอการตัดสินใจออกไปปีหน้า สวนทางกับผู้ประกอบการที่แข่งกันแชร์ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันในปีนี้ร้อนแรงที่สุดในรอบ 5-6 ปีที่ผ่านมา" |
| . |
|
นายสิทธิพร กล่าวว่า ยอดขายครึ่งปีที่ผ่านมาต่ำกว่าที่ประเมินไว้ 15% ทั้งที่บริษัทฯมีการขยายสาขาเพิ่มในพื้นที่ใหม่ๆและมียอดขายเพิ่มเข้ามาก็ตาม แต่ยอดขายในพื้นที่เดิมหรือในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลลดลงมาก อย่างไรก็ดีปีนี้บริษัทฯคงไม่มุ่งหวังเพิ่มยอดขายมากนัก แต่จะมุ่งปรับโครงสร้างองค์กรและพัฒนาบุคลากร รวมถึงการพัฒนาสินค้าทั้งในด้านดีไซน์และมาตรฐานงานก่อสร้าง โดยเฉพาะเทรนด์บ้านประหยัดพลังงานที่ได้รับความนิยมและกำลังมาแรง |
| . |
|
โดยเมื่อเร็วๆนี้บริษัทฯได้เข้ารับรางวัลฉลากบ้านอนุรักษ์พลังงานประเภท "ดีมาก" ประจำปี 2552 รวม 4 รางวัล จากกรมพัฒนาพลังงานทดและและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นผู้มอบรางวัล นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับมากขึ้น เพราะหากเศรษฐกิจฟื้นก็จะสามารถขับเคลื่อนและขยายตลาดได้ทันที |
| . |
|
ปีนี้จะเร่งประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ผ่านงานแสดงสินค้า หรือออก บูธตามห้างสรรพสินค้าและดิสเคาน์สโตร์ในพื้นที่ต่างจังหวัดตลอดปี โดยระหว่างวันที่ 3-12 กรกฎาคม 2552 นี้ บริษัทฯจะร่วมออกบูธในงาน เมดอินไทยแลนด์ ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี จัดโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ |
| . |
|
ซึ่งงานนี้นอกจากจะเป็นการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าสร้างบ้านแล้ว จะเป็นการเปิดตัวธุรกิจแฟรนไชส์อีกด้วย ภายใต้แบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ อีกด้วย โดยรูปแบบบูธจะจำลองบรรยากาศสาขาต้นแบบ เพื่อโชว์ให้ผู้สนใจร่วมเป็นเครือข่ายแฟรนไชส์ได้เห็นภาพชัดเจน ตั้งเป้าขายแฟรนไชส์ในงานไว้ 3-4 ราย ตามแผนการขยายสาขาแฟรนไชส์ในปี 2552 นี้ |
Thailandindustrycom_official
