นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ตนยืนยันว่าจะไม่นำมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันกลับมาใช้อีกครั้งแน่นอน ใน 5 มาตร การ 6 เดือน ที่จะครบกำหนดในเดือน ก.ค.นี้ เพราะไม่ต้องการสนับสนุนให้ประชาชนใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง โดยเห็นได้จากการต่ออายุมาตรการดังกล่าวครั้งแรก ก็ได้ตัดมาตรการช่วยเหลือด้านภาษีน้ำมันออกไป เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความประหยัด แต่ทั้งนี้จะปรับหรือลดมาตรการดังกล่าวอย่างไรบ้างนั้น ยังไม่เปิดเผย เพราะยังมีเวลาอยู่ คาดว่าเร็ว ๆ นี้จะเสนอ ครม. อีกครั้งหนึ่ง |
. |
ส่วนมาตรการที่จะเพิ่มรายได้ให้รัฐด้วยการเพิ่มภาษีน้ำมัน ด้วยการออก พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2552 ที่รัฐสภาไม่ผ่านร่างดังกล่าวนั้น ไม่มีผลใด ๆ ต่ออัตราการจัดเก็บภาษีน้ำมันปัจจุบัน ซึ่งตั้งแต่รัฐบาลขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนราคาน้ำมันในอัตราเดียวกันกับการจัดเก็บภาษี ซึ่งไม่ได้เพิ่มภาระให้ประชาชน แต่ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นปัจจุบัน เกิดจากกลไกราคาน้ำมันโลก |
. |
ขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ มีเงินสะสมอยู่กว่า 20,000 ล้านบาท และมีหนี้สินกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งชดเชยภาระแทนประชาชนได้สุทธิ 15,000 ล้านบาท ในส่วนของเงินที่ไหลเข้าออกกองทุนน้ำมันฯ ทั้งจากการจัดเก็บและการชดเชยจะลดลงเดือนละ 600 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะให้กองทุนน้ำมันฯรับภาระต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงระยะหนึ่งที่รัฐบาลมองเห็นว่าเหมาะสม จะทบทวนปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันอีกครั้ง ทั้งนี้จะไม่ให้กองทุนน้ำมันฯ มียอดเงินสะสมติดลบเด็ดขาด" |
. |
สำหรับแนวทางที่รัฐบาลยืนยันว่าจะเดินหน้าสนับสนุนพลังงานทดแทนจากผลผลิตทางการเกษตรทั้งจากมันสำปะหลังและอ้อย เป็นต้น เนื่องจากไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมนั้น ยังจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันอยู่ จึงควรหันมาสนับสนุนการปลูกพืชพลังงานทดแทนที่เป็นจุดแข็งแทน ซึ่งการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัฐบาลได้พิจารณา ให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม. |
. |
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ |