เปิดตัวโปรแกรม Power To Change เพื่อสร้างจิตสำนึกของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ให้เห็นประโยชน์ของการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเมื่อไม่ได้ใช้งาน

เอชพีประกาศเปิดตัวโปรแกรม Power To Change ซึ่งเป็นการรณรงค์เพื่อสนับสนุนให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั่วโลกปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

การรณรงค์ดังกล่าวสนับสนุนให้ผู้ใช้ได้ดาวน์โหลดวิดเจท (widget) ใหม่ล่าสุดมาไว้บนคอมพิวเตอร์เพื่อให้ปรากฎบนหน้าจอภาพของเครื่องตนเอง ซึ่งจะสามารถติดตามผลการประหยัดพลังงานทั้งหมดของผู้ที่ร่วมปิดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเมื่อไม่ได้ใช้งานได้

บุคคลทั่วไปและองค์กรธุรกิจทั่วโลกสามารถดาวน์โหลดวิดเจทของโปรแกรม Power To Change ได้แล้ววันนี้ โดยสามารถดาวน์โหลดและใช้งานกับแพลทฟอร์มของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้ทุกรูปแบบ ด้วยวิทเจทดังกล่าว ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วโลกสามารถดูและค้นหาผลการประหยัดพลังงานที่เกิดขึ้นจากโปรแกรมนี้ อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ใช้ทั้งในระดับผู้ใช้ส่วนบุคคลและผู้ใช้รวมทั่วโลกได้

มร. จอห์น เฟรย์ ผู้บริหารหน่วยงานด้านความยั่งยืน ประจำภูมิภาคอเมริกาของเอชพี กล่าวว่า "โปรแกรม Power To Change สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาที่เอชพีได้ยึดถือเสมอมาในการเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมนั่นคือการตอบแทนคืนสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง และด้วยโปรแกรม Power To Change จะทำให้บุคคลทั่วไปและองค์กรธุรกิจสามารถแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมจากจุดเล็กๆ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในปัจจุบันได้อย่างยิ่งใหญ่"

เอชพีได้ประเมินไว้ว่า หากผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวน 100,000 คน ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงานหลังจากเลิกงานในแต่ละวัน จะสามารถประหยัดพลังงานได้ทั้งหมดมากกว่า 2,680 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง(1) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ทั้งหมดมากกว่า 3,500 ปอนด์ต่อวัน(2) ซึ่งมีค่าเทียบเท่ากับการลดการใช้รถยนต์มากกว่า 105 คันบนถนนในแต่ละวัน

โปรแกรม Power To Change ได้เปิดตัวทั่วทั้ง 3 ภูมิภาคของเอชพี ได้แก่ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น, ภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา และภูมิภาคอเมริกา โดยมีภาษาให้เลือก 5 ภาษา คือ จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น โปรตุเกส และสเปน 

เอชพีและประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงาน

เอชพีนำเสนอพอร์ทโฟลิโอสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าทั่วไปและองค์กรธุรกิจ ตั้งแต่โน๊ตบุ๊คพร้อมใช้สำหรับระดับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และรุ่น thin clients ไปจนถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในรูปแบบนวัตกรรมระบบสัมผัส และคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่มีความบางและประสิทธิภาพสูง 

เอชพีได้บรรลุเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2550 ในการลดการใช้พลังงานของกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะและโน๊ตบุ๊คของเอชพีที่มีเป็นจำนวนมาก ในปริมาณร้อยละ 25 ภายในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งเอชพีได้ทำสำเร็จก่อนกำหนดการที่ตั้งไว้ถึงหนึ่งปีครึ่ง เอชพีจึงได้กำหนดเป้าหมายใหม่ที่จะประหยัดพลังงานไฟฟ้าลง 1 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2554(3) 

ผ่านกลยุทธ์การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายอันจะช่วยลดการใช้พลังงานไว้ภายในผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีเป็นจำนวนมาก โดยได้คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนของพลังงานที่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของเอชพีจะประหยัดได้เทียบเท่ากับการใช้พลังงานไฟฟ้าในบ้านเรือนตลอดทั้งปีถึง 90,000 หลัง(4)

พร้อมกันนี้ เอชพียังนำเสนอชุดโซลูชั่นเพื่อการประหยัดพลังงานที่ครบวงจรที่สุดในอุตสาหกรรมการพิมพ์(5) ให้แก่ลูกค้า โดยในปี พ.ศ. 2551 เอชพีได้ส่งผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ที่ได้รับการรับประกันจาก ENERGY STAR® มากกว่า 25 ล้านเครื่องออกสู่ตลาด ซึ่งมากกว่าผู้ค้ารายอื่นๆ

นอกจากนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ตระกูล HP LaserJet และ HP Inkjet ที่มีการเปิดตัวใหม่ในปี พ.ศ. 2552 ก็ได้รับการรับประกันจาก ENERGY STAR® เช่นกัน(6) รวมทั้งภายในครึ่งปีแรกของปีนี้ เอชพีได้เข้าใกล้การบรรลุเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ในปี พ.ศ. 2551 แล้วถึงร้อยละ 80 ที่จะพัฒนาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มการพิมพ์ทั้งหมดให้มากขึ้นถึงร้อยละ 40 ภายในปี พ.ศ. 2554