บุคลากรที่มีความสามารถสูง ไม่จำเป็นต้องมาจากใบสมัครงานกองโตที่ฝ่ายบุคคลของบริษัทเท่านั้น บางครั้งพวกเขาอาจมาจากแนะนำ หรือแม้กระทั่งบริษัทสรรหา
บุคลากรที่มีความสามารถสูง ไม่จำเป็นต้องมาจากใบสมัครงานกองโตที่ฝ่ายบุคคลของบริษัทเท่านั้น บางครั้งพวกเขาอาจมาจากการบอกต่อ แนะนำ หรือแม้กระทั่งบริษัทสรรหาบุคลากร วิธีที่เรียกว่า Head Hunter นี้ กลายเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน |
. |
ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศจะพัฒนามาก และกลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการแข่งขันทางธุรกิจ บุคลากรที่มีความสามารถจึงเป็นที่ต้องการสำหรับองค์กรต่าง ๆ เหล่านี้ ดูเหมือนว่า มหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะพากันเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนหลักสูตรสารสนเทศเพิ่มขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพื่อสนองตอบความต้องการนี้ แต่อย่างไรก็ตาม การเร่งสร้างบุคลากรก็ยังไม่เพียงพอต่อความเจริญเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ๆ ยิ่งในสภาพเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวและเต็มไปด้วยการแข่งขันเช่นนี้ ผู้บริหารองค์กรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ จึงพยายามสร้างกลยุทธ์ในการคัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถเข้ามาทำงานให้กับองค์กรให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นความคิดเชิงรับ ซึ่งรอให้บุคลากรที่มีความสามารถมาเขียนใบสมัครงานเองนั้น อาจยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีของการแข่งขันในขณะนี้ |
. |
แต่สำหรับผู้บริหารที่เข้าใจขอบเขตของการคัดเลือกบุคลากร ซึ่งจะช่วยให้การว่าจ้างงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้ว นับว่าเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าทีเดียว ที่จะเป็นฝ่ายเริ่มเกมรุกเสียเอง โดยควานหาบุคลากรทางด้านไอทีที่มีความชำนาญมาร่วมงานด้วย ซึ่งวิธีหนึ่งในนั้น อาจมาจากบริษัทบริการจัดหางานและบุคลากร หรือที่เรียกว่า Head Hunter |
. |
เลือกบริษัทที่เหมาะสม |
การเริ่มต้นที่ดีก็คือ ติดต่อกับบริษัทสรรหาบุคลากรในระดับภูมิภาคหรือนานาชาติ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีเครือข่ายติดต่อทั้งภายในและภายนอกประเทศ มีที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ และมีกระบวนการสรรหาบุคลากรที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ท่านควรจะหาบริษัทที่มีประสบการณ์ทางสายงานเทคโนโลยีเป็นอย่างดี |
. |
ค่าธรรมเนียม |
โดยปกติแล้วบริษัทสรรหาบุคลากรจะมีบริการสรรหาบุคลากรทั้งแบบเฉพาะกรณีหรือแบบตายตัว ซึ่งทั้งสองประเภทนี้จะคิดค่าธรรมเนียมโดยคิดจากฐานเปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนปีแรกของผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือก และหากตำแหน่งหน้าที่สูงขึ้น ค่าธรรมเนียมก็จะสูงตามไปด้วย ซึ่งค่าธรรมเนียมนี้สามารถต่อรองได้ขึ้นอยู่กับปริมาณและเงื่อนไขพิเศษในการสรรหานั้น โดยทั่วไปค่าธรรมเนียมจะอยู่ระหว่าง 15-30% |
. |
ในความเป็นจริง ผู้บริหารด้านการสรรหาบุคลากรมักจะมองว่าบริการสรรหาแบบเฉพาะกรณีนั้น เสี่ยงน้อยกว่า เนื่องจากจะมีการชำระเงินให้แก่บริษัทสรรหาบุคลากรต่อเมื่อทางบริษัทได้บุคลากรตามต้องการแล้วเท่านั้น |
. |
อย่างไรก็ดี หากต้องการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถเฉพาะด้านมากขึ้น การสรรหาแบบเจาะจงจะมีประโยชน์มากกว่า เนื่องจากข้อตกลงด้านการเงินและเงื่อนไขพิเศษต่าง ๆ ของการสรรหาแบบนี้ จะทำให้บริษัทสรรหาบุคลากรพิจารณาผู้สมัครในวงแคบลง และมุ่งเน้นไปยังคุณสมบัติเฉพาะตามที่บริษัทกำหนดมา |
. |
การบริการสรรหาแบบเจาะจงจะคิดค่าธรรมเนียมโดยประมาณจากเงินเดือนทั้งปีของผู้สมัคร ที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งจะมีกำหนดชำระเงิน 3 ครั้งคือ เมื่อตกลงใช้บริการสรรหาบุคลากร เมื่อทางบริษัทได้รับรายชื่อผู้สมัคร และเมื่อเริ่มจ้างงาน |
. |
กระบวนการสรรหา |
ควรหาบริษัทสรรหาบุคลากรซึ่งมีที่ปรึกษาที่มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ และไม่ยึดติดอยู่กับฐานข้อมูลภายในของบริษัทตนแต่เพียงอย่างเดียว แน่นอนว่า จะต้องมีผู้สมัครจำนวนมากที่ตรงกับความต้องการของบริษัท แต่บริษัทที่ดีควรใช้ประโยชน์ข้อนี้เป็นเพียงจุดเริ่มในการหาผู้สมัครที่เหมาะสม แล้วเพิ่มกลยุทธ์การสรรหาที่มุ่งเน้นมากขึ้น เช่น คัดสรรเฉพาะบุคคลที่มีความสามารถโดดเด่น และพิจารณาบุคคลอ้างอิง ระยะเวลาตั้งแต่การนัดหมายไปจนถึงการเสนอรายชื่อผู้สมัครควรอยู่ระหว่าง 7-14 วัน อย่างไรก็ดี ระยะเวลาอาจมากหรือน้อยกว่านี้ได้ ขึ้นอยู่กับกลวิธีในการสรรหา และตำแหน่งงานที่ต้องการ |
. |
บริการที่เพิ่มความน่าเชื่อถือ |
แม้ธุรกิจให้บริการสรรหาบุคลากรในภูมิภาคเอเชียยังขาดความเป็นมืออาชีพ และยังไม่อาจแข่งขันกับบริษัทจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร หรือออสเตรเลียได้ก็ตาม แต่บริษัทเอเชียบางแห่งก็ใช้เครื่องมือแบบใหม่ในการสรรหาบุคคลที่มีความสามารถ และเสนอกระบวนการคัดเลือกที่มีประสิทธิภาพให้แก่ลูกค้าได้มากขึ้น |
. |
ขณะนี้การทดสอบทางจิตวิทยา ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและใช้กันในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกามาหลายปี ได้เริ่มแพร่หลายเข้ามาในตลาดเอเชียแล้ว การทดสอบทางจิตวิทยาจะช่วยให้ผู้ว่าจ้างประเมินทักษะทางด้านจิตใจของผู้สมัครได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง และช่วยให้ผู้ว่าจ้างมองเห็นวิธีบริหารหรือวัฒนธรรมขององค์กรได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นช่วยดึงเอาความสามารถของแต่ละบุคคลออกมาใช้กับงานให้มากที่สุดนับตั้งแต่แรกเริ่ม |
. |
ความไม่ลงรอยกันของคู่ค้า |
. |
ข้อมูล |
ปัญหาส่วนมากที่สร้างความขัดแย้งระหว่างบริษัทสรรหาบุคลากรและองค์กรผู้ว่าจ้าง เกิดจากการขาดเวลาหรือขาดข้อมูลที่เพียงพอ ดังนั้นเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะใช้บริการจากบริษัทสรรหาบุคลากร องค์กรนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมอบความไว้วางใจให้บริษัทจัดหาบุคลากรด้วย เพื่อให้ข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพทั้งในแง่องค์กรและด้านการตลาด |
. |
ในขั้นตอนดังกล่าวนี้ องค์กรผู้ว่าจ้างและบริษัทสรรหาบุคลากรจำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนตรงกันทั้งสองฝ่าย เพื่อช่วยให้บริษัทสรรหาบุคลากรดำเนินการสรรหาตำแหน่งต่าง ๆ ได้ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ด้วยข้อมูลที่น้อยลง แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และแต่ละฝ่ายก็จะทราบถึงความคาดหวังที่แท้จริงของกันและกัน บางครั้งผู้สมัครที่เหมาะสมอาจยังไม่ได้เตรียมหางานใหม่อย่างกระตือรือร้น ดังนั้นบริษัทสรรหาบุคลากรจำเป็นต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งและบริษัทของท่านไว้นำเสนอ เพื่อชักจูงใจผู้สมัครอย่างพร้อมมูล รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับตำแหน่งงานจะต้องกำหนดเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เนื่องจากทั้งที่ปรึกษาและผู้ว่าจ้างจะต้องทราบความคาดหวังของผู้สมัครด้วยทั้งสองฝ่าย เมื่อมีการเจรจาเรื่องผลตอบแทนและหน้าที่รับผิดชอบ |
. |
การว่าจ้างบริษัทมากเกินไป |
การว่าจ้างบริษัทสรรหาบุคลากรมากเกินไปเป็นเรื่องผิดพลาดอย่างยิ่ง เนื่องจากตลาดเอเชียมีขนาดเล็ก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาในแง่ผู้ชำนาญการเฉพาะด้าน ดังนั้นผู้สมัครอาจรู้สึกหัวเสียหากพวกเขาได้รับการติดต่อจากบริษัทสรรหาบุคลากรต่าง ๆ ให้ไปสัมภาษณ์งานตำแหน่งเดิม |
. |
การเจรจาเรื่องผลตอบแทน |
อย่าประเมินความสำคัญของผู้เจรจาเรื่องผลตอบแทนต่ำเกินไป โดยส่วนใหญ่ บริษัทสรรหาบุคลากรมักไม่สนับสนุนให้ผู้สมัครและลูกค้าของตนเจรจาค่าตอบแทนกันเองโดยตรง เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องถกเถียงกันอย่างจริงจังมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งความสัมพันธ์ระหว่างผู้ว่าจ้างและลูกจ้างอาจขาดสะบั้นลงด้วยการสื่อสารที่ผิดพลาดได้ |
. |
การใช้บริการบริษัทสรรหาบุคลากรนั้นมีข้อดีที่น่าสนใจอยู่หลายประการ และในปัจจุบันมีแนวโน้มว่า บริษัทสรรหาบุคลากรในเอเชียจะพัฒนาความน่าเชื่อถือ และความสามารถขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจทัดเทียมมาตรฐานสากลได้ |