เนื้อหาวันที่ : 2009-06-17 08:54:52 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 493 views

สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสน ลบ. 3 วาระรวด หลังฝ่ายค้านวอล์คเอาท์

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาท  หลังเปิดให้ ส.ส.ร่วมอภิปรายนานกว่า 12 ชั่วโมง โดยเป็นการลงมติผ่านทั้ง 3 วาระ เนื่องจากฝ่ายค้านวอล์คเอาท์ออกจากห้องประชุม ไม่ยอมตั้งกรรมาธิการฯ ร่วมพิจารณาแปรญัตติ

.

โดยการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ วันที่ 2 เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้เสนอหลักการของร่าง พ.ร.บ.ค้างไว้เมื่อกลางดึกวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เริ่มขึ้นในช่วงบ่ายซึ่ง ส.ส.ฝ่ายค้าน ทยอยลุกขึ้นอภิปรายคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว

.

เนื่องจากเห็นว่าการกู้เงินตามกฎหมายฉบับนี้ไม่มีแผนงานที่ชัดเจน ทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาระหนี้สินเหมือนในอดีตที่เคยเป็นหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) และไม่มั่นใจเรื่องการใช้เงินของรัฐบาลจึงไม่ขอสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว 

.

นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย(พท.) ซึ่งอภิปรายเป็นคนสุดท้าย ระบุว่า ขอให้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกไป เพราะฝ่ายค้านไม่สามารถยกมือสนับสนุนให้ได้ และไม่สามารถร่วมตั้งกรรมาธิการฯ ได้ จากนั้นได้นำสมาชิกพรรค พท.วอล์คเอาท์ออกจากห้องประชุม ขณะที่ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี และนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกขับออกจากพรรค พท.ยังนั่งอยู่ในห้องประชุม 

.

หลังจากนั้นนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้สั่งปิดการอภิปรายเพื่อลงมติ โดยสั่งให้นับองค์ประชุมปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุม 270 คน จากนั้นจึงสั่งให้ลงมติ ปรากฏว่า ที่ประชุมฯ มีติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยคะแนน 247 ต่อ 0 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 18 เสียง 

.

ส่วนขั้นตอนการการตั้งคณะกรรมาธิการฯ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) เสนอว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีเจตน์จำนงให้ผ่านการตรวจสอบจากรัฐสภาอย่างกว้างขวาง แต่ยังมีสมาชิกส่วนหนึ่งวอล์คเอาท์ออกจากห้องประชุม แม้รัฐบาลจะจัดให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมตามข้อเรียกร้องแล้วก็ตาม          

.

ส่วนที่มีข้อเรียกร้องให้ทำรายละเอียดแผนงานนั้นรัฐบาลก็พร้อมดำเนินการเพื่อเสนอให้สมาชิกตรวจสอบ แต่ในชั้นนี้คือขั้นรับหลักการจึงยังไม่มีการเสนอแผน แต่ในชั้นกรรมาธิการทุกพรรคจะได้ร่วมกันตรวจสอบรายละเอียดที่รัฐบาลเสนอมาให้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นจึงขอเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภาเพื่อพิจารณาในวาระ 2 ซึ่งที่ประชุมไม่มีใครคัดค้าน 

.

จากนั้นเป็นการพิจารณาวาระที่ 2 ชั้นกรรมาธิการเต็มสภา พิจารณาร่าง พ.ร.บ.จำนวน 13 มาตรา ปรากฏว่า มีเพียงมาตรา 3 ที่นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท.เสนอแปรญัตติให้ ครม.เสนอกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ต่อรัฐสภา เพื่อพิจารณาก่อนเริ่มดำเนินการ ส่วนนายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรค ปชป.เสนอให้คงตามร่างเดิมคือ ให้ ครม.เสนอเพื่อทราบ ทำให้ต้องมีการโหวต ปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติยืนตามร่างเดิมด้วยคะแนน 239 ต่อ 1 ไม่ลงคะแนน 16 เสียง 

.

อย่างไรก็ตาม หลังลงมติรายมาตราแล้ว นายขจิตพยายามขอถอนการแปรญัตติของตนเอง โดยระบุว่า เป็นการเข้าใจผิด แต่ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ยอมให้ถอน เพราะที่ประชุมลงมติคำแปรญัตติไปแล้ว จากนั้นเป็นการลงมติในวาระ 3 ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 244 ต่อ 0 ไม่ลงคะแนน 19 เสียง และปิดการประชุมในเวลา 01.45 น. ซึ่งหลังจากนี้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาต่อไป