เนื้อหาวันที่ : 2009-06-15 11:23:46 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2108 views

ผู้เชี่ยวชาญเตือนรัฐบาลสหรัฐเปลี่ยนนโยบายภาษี-การใช้จ่ายงบประมาณ

ปีเตอร์ ชิฟฟ์ ลั่นเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่มีวันฟื้นตัวหากรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีและการใช้จ่ายงบประมาณ ชี้รัฐบาลปกปิดตัวเลขขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล

ปีเตอร์ ชิฟฟ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ

.

ปีเตอร์ ชิฟฟ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจชื่อดังในสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่มีวันฟื้นตัวหากรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีและการใช้จ่ายงบประมาณ 

.

ชิฟฟ์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานและหัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ของบริษัทโบรกเกอร์ ยูโร แปซิฟิค แคปิตอล อิงค์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวซินหัวว่า "สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำรังแต่จะทำให้เรามีหนี้สินและมีปัญหามากขึ้น รัฐบาลกำลังซื้อเวลาซึ่งรังแต่จะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นในอนาคต"

.

"รัฐบาลกำลังทำทุกอย่างเพื่อกลบตัวเลขขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาลที่ตัวเองสร้างขึ้น แต่กลับไม่ทำสิ่งที่จำเป็นที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเลย รัฐบาลทำสิ่งที่ตรงข้ามทั้งหมด" ชิฟฟ์ ผู้ซึ่งโด่งดังจากการคาดการณ์อย่างแม่นยำว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2551 กล่าว 

.

ในขณะเดียวกัน ชิฟฟ์กล่าวถึงอัตราดอกเบี้ยว่า "ตอนนี้เราอาจลดดอกเบี้ยได้ แต่อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงจะกดดันให้เราต้องขึ้นดอกเบี้ยในที่สุด จากนั้นเศรษฐกิจจะถดถอย ราคาสินค้าจะพุ่งสูง และตลาดจะขาดแคลนสินเชื่อ ซึ่งจะเป็นผลเสียอย่างหนักต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ" 

.

ชิฟฟ์กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำแบบหลอกๆ ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นเฟื่องฟูแบบหลอกๆ และผลที่ได้คือเราต้องจมอยู่กับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างในตอนนี้ ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดคนปัจจุบัน ก็ลดดอกเบี้ยจนเกือบแตะ 0% และเข้าแทรกแซงตลาดโดยตรง ซึ่งนโยบายดังกล่าวอาจนำไปสู่การล่มสลายของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเลวร้ายกว่าวิกฤตการเงินในตอนนี้มาก         

.

ชิฟฟ์กล่าวทิ้งท้ายว่า "หากรัฐบาลเปลี่ยนแปลงนโยบายในตอนนี้เศรษฐกิจก็จะฟื้นตัวทันที เปรียบได้กับการดึงพลาสเตอร์ยาออกจากแผล ตอนนี้รัฐบาลค่อยๆดึงพลาสเตอร์ยาออกเพราะกลัวเจ็บ โดยหารู้ไม่ว่าหากดึงออกไปเลยทีเดียวจะเจ็บไม่นาน หลังจากนั้นแผลก็จะหายอย่างรวดเร็ว" สำนักข่าวซินหัวรายงาน