ไอร่า ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น โตโย-ไทย ในปี 52 และ ปี 53 ที่ 7.40 บาท และ 10.25 บาท ชี้ TTCL ได้เปรียบต้นทุนต่ำ เป็นบริษัทไทยรายเดียวที่ให้บริการรับเหมาก่อสร้าง EPC ครบวงจร
บล.ไอร่า ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น บมจ.โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น ในปี 52 และ ปี 53 ที่ 7.40 บาท และ 10.25 บาท ตามลำดับ เนืองจาก TTCL มีจุดเด่นที่เป็นบริษัทไทยรายแรกและรายเดียวที่ให้บริการรับเหมาก้อสร้าง EPC แบบครบวงจร และจากความได้เปรียบทางด้านต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ทำให้มีความสามารถในการแข่งขัน |
. |
. |
รวมถึงศักยภาพและความพร้อมในการขยายขอบเขตการรับงานที่มีมูลค่าสูงขึ้น และมุ่งรับงานต่างประเทศมากขึ้น ขณะที่ TTCL เสนอขายหุ้น IPO ที่ราคา 4.25 บาท จำนวน 130 ล้านหุ้น และจะเข้าเทรดในวันที่ 16 มิ.ย.52 |
. |
TTCL เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง TOYO Engineering Corporation (ประเทศญี่ปุ่น) และ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เพื่อดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้บริการออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรอุปกรณ์ และการก่อสร้างโรงงาน แบบครบวงจร (Integrated Engineering,Procurement and Construction, Integrated EPC) โดยลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมพลังงาน ปิโตรเคมี และเคมีภัณฑ์ ซึ่งเป็นโครงการที่มีมูลค่าขนาดใหญ่ ได้แก่ กลุ่ม ปตท. กลุ่มบริษัทในเครือซีเมนต์ไทย บจ.ไบ-เออร์ไทย และกลุ่มวินีไทย เป็นต้น |
. |
ทั้งนี้ TTCL คาดมีงานเพิ่มในครึ่งหลังปี 52 ประมาณ 5,200 ล้านบาท โดยปัจจุบันมี Backlog กว่า 9,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน TTCL มีแผนยื่นประมูลงานทั้งในและต่างประเทศในปี 52 - 53 มูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท |
. |
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมขยายงานในต่างประเทศ เช่น โมรอคโค และประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่อุตสาหกรรมยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมปุ๋ยเคมี และอุตสาหกรรมพลังงานและสาธารณูปโภค เป็นต้น หลังจากบริษัทมีความพร้อมทางการเงินและความน่าเชื่อถือจากการที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ |
. |
บล.ไอร่า คาดว่า TTCL คาดมีโอกาสได้งานเพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 52 - 53 ยังสามารถเติบโตได้ดีในระดับเดียวกับปี 51 ส่วนฐานะการเงินอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ณ สิ้นมี.ค.52 มีเงินสดในมือสูงกว่า 3,000 ล้านบาท ที่ส่วนใหญ่มาจากการดำเนินงาน แม้จะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) จะสูงถึง 9.8 เท่า โดยหนี้ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของต้นทุนงานก่อสร้างค้างจ่าย |
. |
สำหรับผลดำเนินงานในปี 52 มีแนวโน้มรายได้ทรงตัวจากปีที่ผ่านมา ประมาณ 10,439 ล้านบาท เพราะคาดว่าระยะเวลาที่เหลือของปี 52 รายได้งานก่อสร้างมีแนวโน้มชะลอตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/52 เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการรับรู้รายได้จากโครงการเดิม |
. |
และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น ปี 52 เฉลี่ย 7.5% ดีขึ้นจาก 6.68% ในปี 51 แต่คาดกำไรสุทธิ ปีนี้ราว 297 ล้านบาท หรือ 0.62 บาท/หุ้น ลดลงเล็กน้อยจากปี 51 ที่มีกำไรสุทธิ 312 ล้านบาท เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายการบริหารเพิ่มซึ่งส่วนหนึ่งมาจากค่าใข้จ่ายในการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่คาดว่าเงินปันผลจะจ่ายประมาณ 030 บาท/หุ้นตามนโยบายจ่ายไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งบริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไป 0.15 บาท/หุ้น |
. |
อย่างไรก็ดี บล.ไอร่า คาดว่าในปี 53 ความสามารถทำกำไรมีแนวโน้มดีขึ้น โดยคาดว่าจะมีงานเพิ่มเข้ามาประมาณ 15,000 ล้านาบาท จากที่บริษัทเข้าประมูลในปี 52-53 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานต่างประเทศ ทำให้คาดว่ารคายได้งานก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 13% และคาดว่า อัตรากำไรขั้นต้นจะสูงขึ้นเฉลี่ย 8.25% สูงกว่าปี 52 ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มาเป็น 418 ล้านบาท หรือ 0.87 ล้านบาท |