ซีเกท ร่วมกับสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย และเอไอที ประกาศรายชื่อ 8 ทีมสุดยอดรถอัจฉริยะไร้คนขับ ที่ผ่านการแข่งขันรอบคัดเลือก โดยได้รับเงินรางวัลทีมละ 50,000 บาท
. |
บริษัทซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ประกาศรายชื่อ 8 ทีมสุดยอดรถอัจฉริยะไร้คนขับ ที่ผ่านการแข่งขันรอบคัดเลือก โดยทั้ง 8 ทีมสุดยอดรถอัจฉริยะไร้คนขับ ได้รับเงินรางวัล ทีมละ 50,000 บาท เพื่อนำไปพัฒนาประสิทธิภาพของรถอัจฉริยะเพื่อเข้าชิงรางวัลในรอบชิงชนะเลิศ ของการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทย 2552 ในวันที่ 29 กรกฏาคม ศกนี้ |
. |
8 ทีมรถอัจฉริยะไร้คนขับที่ผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขันในรอบสุดท้ายได้แก่ |
1. ทีมขึ้นช่าย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) รถวิ่งได้ระยะทาง 1,849 เมตรและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ 9 จุด |
. |
5. ทีมดาร์ค ฮอร์ส (Dark Horse) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี รถวิ่งได้ระยะทาง 598.78 เมตร และหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ 2 จุด |
. |
. |
รองศาสตราจารย์ ดร. มนูกิจ พานิชกุล ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทย 2552 และ อาจารย์ประจำภาควิชาเมคาโทรนิคส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) กล่าวว่า "ในปีนี้ มีทีมรถอัจฉริยะไร้คนขับจำนวน 21 ทีมจาก 19 สถาบันการศึกษา เข้าร่วมการแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทย 2552 รอบคัดเลือกซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการจัดการแข่งขัน |
. |
หลาย ๆ ทีมสามารถวิ่งได้ระยะทางที่ไกลมากขึ้นเมื่อเทียบกับผลการแข่งขันใน 2 ปีที่ผ่านมาพร้อมทั้งยังสามารถหลบหลีก สิ่งกีดขวางได้อย่างดี สำหรับ 8 ทีมที่เข้ารอบเป็น 8 ทีมที่วิ่งได้ระยะทางรวมไกลที่สุด ซึ่งทีมต่าง ๆ นี้จะต้องมาพิสูจน์ ความฉลาดและความเร็วในรอบชิงชนะเลิศซึ่งเป็นการแข่งความเร็วแบบมีการน็อครอบกันของรถไร้คนขับ" |
. |
การแข่งขันสร้างรถอัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศไทย จัดขึ้นเป็นครั้งที่สาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และความชำนาญ ในสาขาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติและยานยนต์ ตลอดจนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและสนับสนุนการทำกิจกรรมนอกหลักสูตร เตรียมความพร้อมให้กับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศไทย ในการทำโครงการรถอัจฉริยะ |
. |
นายเจฟฟรี่ย์ ดี ไนการ์ด รองประธานและผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "กิจกรรมครั้งนี้ เราได้เห็นการแสดงศักยภาพจากการประมวลความรู้เป็นผลงานของนักศึกษา พัฒนาการและความร่วมมือกันทำงานเป็นทีม ซึ่งถือว่าเป็นการบรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดการแข่งขัน |
. |
และตรงตามนโยบายหลักของซีเกทมีความมุ่งหวังที่จะสนับสนุนให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสแสดงศักยภาพและกระตุ้นให้พวกเขาเป็นนักคิดและนักพัฒนาตลอดจนแสดงออกซึ่งความสามารถและได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และทักษะอันจะเป็นประโยชน์ต่อแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยียานยนต์และหุ่นยนต์ ตลอดจนการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป" |
. |
สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนกรกฏาคม ศกนี้ บริษัทซีเกทสนับสนุนการจัดการแข่งขันและรางวัล สำหรับทีมรถอัจฉริยะไร้คนขับที่ได้รับรางวัลดังนี้คือ รางวัลชนะเลิศ 300,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศ เงินรางวัล 200,000 บาท รางวัลเทคนิคยอดเยี่ยม เงินรางวัล 50,000 บาท รางวัลความคิดสร้างสรรค์ เงินรางวัล 50,000 บาทและ รางวัลออกแบบประหยัดพลังงานยอดเยี่ยม เงินรางวัล 50,000 บาท |
. |
. |
สัมภาษณ์ทีมรถอัจฉริยะไร้คนขับ "ทีม Air Force II (แอร์ ฟอร์ซ ทู - โรงเรียนนายเรืออากาศ" |
รายชื่อสมาชิกในทีม |
. |
1. มีขั้นตอนในการพัฒนารถอย่างไร ก่อนที่จะส่งผลงานเข้าแข่งขันในรอบคัดเลือก |
ในการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน ทีมแอร์ ฟอร์ซ ทูได้ศึกษาเทคนิคต่าง ๆ จากทีมที่เข้าแข่งขันเมื่อปีก่อน นอกจากนี้ ยังมีการนำ GPS ซึ่งทางโรงเรียนนายเรืออากาศใช้สำหรับเฮลิคอปเตอร์ มาปรับใช้กับรถอัจฉริยะไร้คนขับที่พวกผมพัฒนาขึ้นด้วยครับ ในการใช้เซ็นเซอร์ เราได้ศึกษาว่าการใช้เซ็นเซอร์เพียงตัวเดียวอาจทำให้รถมีปัญหาได้ |
. |
ดังนั้น เราจึงนำอินฟราเรดมาใช้ควบคู่กันไป เช่น ถ้ารถตกจากถนนแล้วเซ็นเซอร์ไม่เตือน ตัวอินฟราเรดก็จะทำงาน ก่อนส่งรถเข้าร่วมการแข่งขัน เรายังมีการทดสอบรถในหลายสภาพอากาศ เช่น การวิ่งในช่วงเช้า-ช่วงเย็น และการทดสอบรถในขณะที่ท้องฟ้ามีเมฆมาก เป็นต้น |
. |
สำหรับการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินผล ทีมของเราใช้ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ซีเกท อีอี 25 เพื่อลงโปรแกรม คอมพิวเตอร์ที่มช้ในการควบคุมหรือสั่งการรถให้ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงบันทึกข้อมูลตำแหน่งของจีพีเอส ด้วย |
. |
2. จุดเด่นของทีมที่ทำให้เป็นหนึ่งใน 3 ทีมที่มีคะแนนสูงสุด |
จุดเด่นของทีมคือการมี GPS ที่มีความละเอียดสูง และมีเลเซอร์ที่ให้ความละเอียดสูง |
. |
3. ระหว่างที่น้อง ๆ พัฒนารถอัจฉริยะไร้คนขับเพื่อเข้าแข่งขัน คิดว่าอะไรเป็นความท้าทายระหว่างการพัฒนารถคันนี้บ้าง |
พวกผมคิดว่าการพัฒนารถเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันมีความท้าทายมาก เพราะเราต้องทำให้ระบบทุกอย่างสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การหลบหลีกสิ่งกีดขวางและการวิ่งอย่างไรจึงจะไม่ตกถนน |
. |
4. คาดว่าในอนาคต รถอัจฉริยะที่น้อง ๆ สร้างขึ้นมาจะมีบทบาทสำคัญอะไรบ้างในการนำไปปรับใช้จริง |
ในการนำรถอัจฉริยะไปปรับใช้จริง พวกผมคิดว่าน่าจะมีการนำไปใช้เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ เช่น ผู้ที่ดื่มสุราไม่สามารถขับรถได้ ก็สามารถใช้รถอัจฉริยะไร้คนขับมาช่วยในการขับขี่ นอกจากนี้ เมื่อสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยกับการขับขี่ ก็สามารถขับขี่ต่อไปได้ด้วยระบบของรถอัจฉริยะไร้คนขับ |