ชาวบ้านคำสร้างไชยโวย สัดส่วนของคณะทำงานไม่เป็นธรรม ตัวแทนข้าราชการมากกว่าชาวบ้าน รูปแบบของการจัดเวทีความคิดเห็นของประชาชนไม่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของชาวบ้าน แต่กลับเป็นการรวบรัดเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทฯ
ชาวบ้านคำสร้างไชยโวย สัดส่วนของคณะทำงานไม่เป็นธรรม ตัวแทนข้าราชการมากกว่าชาวบ้าน ซึ่งมีเพียง 1 คน คณะทำงานยังขาดนักวิชาการที่เป็นกลาง รูปแบบของการจัดเวทีความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้ จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของชาวบ้าน แต่กลับเป็นการรวบรัดเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทฯ |
. |
. |
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2552 คณะทำงานชี้แจงข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวล (แกลบ) ของบริษัท บัวสมหมายไบโอแมส จำกัด ขนาดกำลังผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ณ บ้านคำสร้างไชย หมู่ 17 ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ได้จัดการประชุมขึ้นที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อหาแนวทาง กระบวนการและรูปแบบเพื่อจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อการสร้างโรงไฟฟ้า |
. |
นายบุญชู สายธนู คณะทำงานที่เป็นตัวแทนชาวบ้านคำสร้างไชยเพียงคนเดียวได้เสนอรูปแบบเวทีรับฟังความคิดเห็นโดยให้มีการศึกษาผลดีผลเสียในการสร้างโรงไฟฟ้าฯ โดยนักวิชาการที่เป็นกลางและมีความรู้ประสบการณ์ทางด้านพลังงานทางเลือก จากนั้นจึงนำผลการศึกษาไปเปิดเวทีให้ข้อมูลและรับฟังความเห็นของชาวบ้าน |
. |
นายบุญชูกล่าวว่า "เมื่อได้ผลการศึกษาแล้วจึงให้ชาวบ้านลงชื่อเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โดยวิธีเปิดเผย ก่อนตัดสินใจอนุญาต" ต่อมา ตัวแทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ได้เสนอให้จัดทำแบบสอบถามแก่ชาวบ้าน จากนั้นจึงให้เปิดเวทีนำเสนอข้อมูลแก่ชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านกรอกความเห็นและส่งกลับให้คณะทำงานก็สรุปความคิดเห็นจากแบบสอบถาม เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ |
. |
นอกจากนี้ ตัวแทนสำนักงานอุตสาหกรรมฯ ยังเสนอให้เพิ่มคณะทำงานจำนวน 4 คน จากเดิมที่อยู่แล้ว 11 คน โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้ครบตามจำนวนหมู่บ้านที่อยู่ในข่ายจะได้รับผลกระทบจากการสร้างโรงไฟฟ้า โดยให้เพิ่มผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 และหมู่ 15 ตำบลท่าช้าง หัวหน้าตำรวจสถานีตำรวจภูธรสว่างวีระวงศ์และตัวแทนของส่วนราชการ |
. |
ขณะตัวแทนชาวบ้านเสนอว่า หากจะเพิ่มจำนวนคณะทำงานควรมีนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จำนวน 3 คน ประกอบด้วยนักวิชาการทางด้านกฎหมาย 1 คน ด้านพลังงานทางเลือก 1 คน และนักวิชาการที่เป็นกลางอีก 1 คน พร้อมด้วยนักวิชาการจากมูลนิธินโยบายสุขภาวะ 1 คน นอกจากนี้ยังให้เพิ่มตัวแทนชาวบ้านหมู่บ้านละ 1 คน โดยเพิ่มบ้านโนนเจริญ หมู่ 9 ตำบลบุ่งมะแลงด้วย |
. |
อนึ่ง คณะทำงานชี้แจงข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนฯ ชุดปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีมีจำนวน 11 คน ประกอบด้วยข้าราชการ 7 คน ผู้ใหญ่บ้านคำสร้างไชย หมู่ 12 และ 17 จำนวน 2 คน ชาวบ้าน 1 คน และตัวแทนบริษัทบัวสมหมายไบโอแมส จำกัด 1 คน |
. |
นายบุญชูแสดงความคิดเห็นว่า สัดส่วนของคณะทำงานไม่เป็นธรรม เนื่องจากมีจำนวนตัวแทนข้าราชการมากกว่าชาวบ้าน ซึ่งมีอยู่เพียง 1 คน และผู้ใหญ่บ้านไม่ถือว่าเป็นตัวแทนชาวบ้าน เพราะไม่เคยรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านที่ขอให้ทบทวนการสร้างโรงไฟฟ้า อีกทั้งคณะทำงานยังขาดนักวิชาการที่เป็นกลางที่เป็นที่พึ่งแก่ชาวบ้าน ดังนั้น รูปแบบของการจัดเวทีความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของชาวบ้าน แต่กลับเป็นการรวบรัดเพื่อประโยชน์แก่บริษัทฯ |
. |
"จะเห็นได้จากที่ประชุมพยายามเร่งให้กระบวนการเสร็จภายใน 30 วัน และที่จัดการประชุมในครั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ เพราะบัวสมหมายถูกทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมแจ้งให้เสนอขออนุญาตใหม่ เพราะหนังสือขออนุญาตตั้งโรงงานที่ขอไปยังขาดองค์ประกอบถึง 14 ข้อ การประชุมนี้ก็เพื่อเติมเต็มเงื่อนไขที่บริษัทฯ ยังขาดอยู่เท่านั้น" นายบุญชูกล่าว |
. |
ขณะที่ประชุมยังถกเถียงไม่เป็นที่ตกลง ประธานที่ประชุม นายสัมฤทธิ์ พัชราภรณ์ ปลัดอาวุโสอำเภอสว่างวีระวงศ์ ได้ขอให้ที่ประชุมยกมือสนับสนุนเพื่อรับแนวทางและกระบวนการที่มีการถกเถียงกันเพื่อหาข้อยุติ ซึ่งผลการยกมือสนับสนุนฝ่ายราชการชนะเสียงของชาวบ้านอย่างท่วมท้น โดยตัวแทนผู้ใหญ่บ้านหมู่ 17และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 เดินออกจากที่ประชุมก่อนมีการยกมือ |
. |
ส่วนทางนายสมหมาย สมทรัพย์ ประธานบริษัทบัวสมหมายฯ ซึ่งเข้าร่วมประชุมกล่าวว่า ข้อเสนอของตัวแทนชาวบ้านที่จะให้มีการศึกษาก่อนนั้น ไม่เป็นไปตามกฎหมายและไม่สามารถทำได้ และกล่าวอีกว่า หากกระบวนการยุ่งยากนัก ตนก็พร้อมที่จะย้ายโรงงานไฟฟ้าฯ ไปสร้างที่อื่น |
. |
ที่มา : เว็บไซต์ประชาไท |