นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับสมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ถึงการเพิ่มปริมาณรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 52 ตามที่เกษตรกรร้องขอว่า การจะเพิ่มปริมาณรับจำนำต้องรอการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) แต่ผลผลิตที่ยังมีเหลืออยู่ในมือเกษตรกรน่าจะเป็นปริมาณที่แท้จริง เพราะราคารับจำนำสูง จูงใจให้เกษตรกรเร่งปลูกต่อเนื่อง |
. |
"จากเดิมที่คาดปีนี้ข้าวนาปรังจะมี 7.7 ล้านตัน แต่ตอนนี้ก็น่าจะมีเกือบ 10 ล้านตันแล้ว ไม่ได้มีการเอาข้าวจากโครงการรับจำนำมาเวียนเทียนเข้าโครงการซ้ำอีกอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกตกัน" นายยรรยง กล่าว |
. |
ทั้งนี้ โรงสีอ้างข้าวยังอยู่ที่เกษตรกรอีก 4 ล้านตัน แต่ผู้ส่งออกระบุน้อยกว่านั้น ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่ามีประมาณ 3.2 ล้านตัน และกระทรวงมหาดไทยระบุว่ามีประมาณ 5.3 ล้านตัน |
. |
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงการลักลอบนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านว่า ขณะนี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นมาก เพราะรัฐบาลไทยกำหนดราคารับจำนำสูงกว่าราคาตลาดมากจึงเป็นแรงจูงใจให้ลักลอบนำเข้าเพื่อหวังส่วนต่างราคา โดยข้าว 5% ของไทยราคาตันละกว่า 10,000 บาท แต่เพื่อนบ้านราคาตันละ 6,000-7,500 บาท |
. |
ผลจากการลักลอบนำเข้าดังกล่าวทำให้ตลาดข้าวไทยเสียหาย เพราะมีการนำข้าวคุณภาพต่ำ ข้าวเมล็ดสั้น และอาจมีข้าวตัดแต่งทางพันธุกรรม(GMOs) มาผสมกับข้าวคุณภาพสูงของไทย ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับตลาดข้าวไทยมาก |
. |
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้เสนอมาตรการแก้ไขปัญหาลักลอบนำเข้าข้าว คือ เสนอให้คณะกรรมการบูรณาการแก้ปัญหาลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรที่มีตัวแทนจากกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กรมศุลกากร รวมถึงด่านศุลกากร เข้มงวดตรวจสอบการนำเข้ามากขึ้น และขอความร่วมมือแก้ไขกฎระเบียบให้บุคคลสามารถนำเข้าข้าว ซึ่งถือเป็นสัมภาระส่วนตัวให้เหลือ 500 กก.จากเดิม 1,000 กก. |
. |
สำหรับการแก้ปัญหาปลอมปนนั้นจะขอความเห็นชอบจาก กขช. อนุมัติให้โรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำรับซื้อข้าวจากโครงการทันทีในราคาตลาด เพราะหากโรงสีฝากเก็บข้าวของรัฐไว้เอง โรงสีบางแห่งจะทำการปลอมปนข้าวได้เพื่อหวังทำกำไร ซึ่งแนวทางดังกล่าวนี้น่าจะช่วยลดภาระค่าฝากเก็บของรัฐได้อีกทางหนึ่ง |