เนื้อหาวันที่ : 2009-06-01 15:26:37 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1161 views

"วรรณรัตน์" มั่นใจราคาน้ำมันขายปลีกไม่เพิ่มขึ้นรุนแรง ตามราคาตลาดโลก

"วรรณรัตน์" รมว.พลังงาน มั่นใจ ราคาน้ำมันขายปลีกไม่ปรับเพิ่มขึ้นรุนแรง แม้แนวโน้มราคาตลาดโลกยังอยู่ช่วงขาขึ้น ฟุ้งเยือน 3 ประเทศตะวันออกกลางได้ผลเกินคาด พร้อมส่ง ปตท.สผ. บุกแหล่งสำรวจปิโตรเลียมต่อเนื่อง

"นายแพทย์วรรณรัตน์" มั่นใจ ราคาน้ำมันขายปลีกไม่ปรับเพิ่มขึ้นรุนแรง แม้แนวโน้มราคาตลาดโลกยังอยู่ช่วงขาขึ้น หลังรับทราบที่ประชุมโอเปก คงกำลังผลิตที่ 24.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ชี้การเยือน 3 ประเทศตะวันออกกลาง และงาน GASTECH 2009 ได้ผลเกินคาด พร้อมส่ง ปตท.สผ. บุกแหล่งสำรวจปิโตรเลียมต่อเนื่อง                         

.

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง อนาคตพลังงานไทย กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ภายในงานมหกรรมพลังงานเฉลิมพระเกียรติ ว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศขณะนี้ ยังอยู่ในภาวะที่คาดว่าคงจะยังไม่ปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว                           

.

เนื่องจากผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ล่าสุด(ค่ำวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา) ที่ประชุม ฯ มีมติให้คงกำลังผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ 24.8 ล้านบาร์เรลต่อไป (กำลังการผลิตไม่รวมอิรัก) และยังไม่มีการปรับเพิ่มหรือลดกำลังผลิตในช่วงนี้ แม้แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ตามที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมาคาดการณ์กันก่อนหน้านี้          

.

โดยการจะปรับเพิ่มขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศหรือไม่นั้น จะต้องรอดูราคาเฉลี่ยน้ำมันจากตลาดโลกอย่างน้อย 3 วันขึ้นไป และยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในช่วงนี้ เป็นไปตามกลไกราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่เกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันของกระทรวงการคลังแต่อย่างใด 

.

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันที่ 24 -.27 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้มีโอกาสนำคณะผู้บริหารระดับสูง และผู้บริหารจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมงานประชุมวิชาการ และจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติระดับนานาชาติ หรือ GASTECH 2009 ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE.)                 

.

รวมทั้งยังได้เยือนกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง 3 ประเทศอย่างเป็นทางการ ได้แก่ ประเทศกาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE.) และประเทศโอมาน ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีที่ได้เข้าพบและหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันแห่งชาติจากทั้ง 3 ประเทศด้วย 

.

ในการเยือนประเทศกาตาร์ คณะได้รับการต้อนรับจาก ผู้บริหารสูงสุดของบริษัท Qatargas ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของประเทศกาตาร์ โดยได้เข้าไปดูงานที่ นิคมอุตสาหกรรม Ras Laffan ซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว ( LNG ) มีกำลังการผลิตในปัจจุบันกว่า 30 ล้านตันต่อปี และมีแผนการขยายกำลังการผลิตไปถึง 70 ล้านตันต่อปีในอนาคต ทำให้ประเทศ กาตาร์จะเป็นผู้ผลิต LNG รายใหญ่ที่สุดในโลก   

.

ผลิตจากแหล่งก๊าซที่มีปริมาณสำรองมากกว่า 950 TCF ( Trillion Cubic Feet ) ซึ่ง ประเทศไทยมีปริมาณสำรองก๊าซเพียงประมาณ 20 TCF เท่านั้น ในเรื่องนี้ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างการเจรจาและพิจารณารับซื้อ LNG จาก Qatargas หลังจากโรงงาน Regasification จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2554 

.

ภายในการจัดงาน GASTECH 2009 ครั้งนี้ กระทรวงพลังงาน โดยบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ได้ร่วมจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และนับเป็นการได้รับเกียรติจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างสูงสุด ที่มกุฎราชกุมาร HH General Sheikh Mohamed bin Zayed Al Nahyon, Crown Prince of Abu Dhabi ทรงเสด็จเยี่ยมชมนิทรรศการของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เป็นที่แรก นอกจากนี้ คณะผู้จัดงาน ฯ ยังได้ให้เกียรติแก่กระทรวงพลังงาน ประเทศไทย โดยเชิญให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของไทยเป็นผู้แสดงปาฐกถาพิเศษภายในการจัดงานแต่เพียงชาติเดียว 

.

นอกจากนี้ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ยังได้สนใจเทคโนโลยีภายในงาน โดยเฉพาะเทคโนโลยีการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) บนเรือลอยกลางทะเล (Floating LNG หรือ FLNG ) ซึ่งจะได้ปรับมาใช้ในการผลิตก๊าซธรรมชาติในส่วนที่เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดเล็ก เพื่อที่จะผลิตเป็น LNG และจัดส่งทางเรือได้ทันที ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ยังไม่มีการใช้งานมาก่อน ซึ่งในงาน ได้รับทราบว่าเรือ FLNG ลำแรกจะเริ่มใช้งานประมาณ ปี ค.ศ. 2012 

.

สำหรับการเยือนประเทศโอมาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยังได้มีโอกาสเยี่ยมชมแหล่งผลิตปิโตรเลียม "แหล่งชามม์" ในประเทศโอมาน ซึ่งปัจจุบันบริษัท ปตท. สำรวจและผลิต จำกัด(มหาชน) ได้เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติแล้ว และสามารถพัฒนากำลังการผลิตได้วันละ 50 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และ condensate วันละกว่า 2,000 Barrel รวมทั้งยังได้เข้าไปสำรวจในแหล่ง B55 เพิ่มเติม ซึ่งทางประเทศโอมานยินดีและพร้อมจะสนับสนุนให้ทาง ปตท.สผ. ดำเนินการสำรวจในพื้นที่ใหม่ ๆ ได้เต็มที่ 

.

"กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ถือเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญที่สุดของโลก และเพื่อความมั่นคงในระยะยาว กระทรวงพลังงานได้แสดงความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้ทั้ง ปตท. และ ปตท.สผ. ในการลงทุนจัดหาน้ำมันดิบ รวมทั้งขอขยายการรับสัมปทานสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ทั้งนี้ การเจรจาดังกล่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานประเทศ และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีทั้งในระดับรัฐบาล ระดับกระทรวงและบริษัทน้ำมันของแต่ละประเทศต่อไป" นายแพทย์วรรณรัตน์กล่าว