ประธานสหพัฒน์ไม่แปลกใจไตรมาส 1 จีดีพีติดลบ 7.1% ระบุเห็นสัญญาณมา 2 ปีแล้ว เหตุรัฐบาลให้ความสำคัญกับค่าเงินบาทต่ำเกินไป ประเมิน 5 เดือนแรก รัฐบาล อภิประชานิยม ฝีมือตกไม่สมราคาคุย  ดูแลเงินผิดพลาดฉุดเศรษฐกิจตกต่ำสุด ธุรกิจขาดทุน รัฐบาลถังแตก ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะกู้เงินอีก 4 แสนล้านบาท เพราะจะทำให้ประเทศไทยขาดทุนและยากจนขึ้นกว่าเดิม

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนาประธานเครือสหพัฒน์

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนาประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า การบริหารงานของภาครัฐภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาทำให้ประเทศไทยขาดทุนหรือถังแตก และไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะกู้เงินอีก 4 แสนล้านบาท เพราะจะทำให้ประเทศไทยขาดทุนและยากจนขึ้นกว่าเดิม

"มีคำถามเรื่องเศรฐกิจฟื้นตัวปลายปี ผมยังไม่เห็นแววว่าจะฟื้นตัวได้ในปีนี้ เนื่องจากเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจปีนี้ติดลบมากกว่าที่รัฐบาลได้ประเมินไว้"

นายบุณยสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับค่าเงินบาทที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อภาคการส่งออก ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ควรเข้าแทรกแซงเงินบาทให้อ่อนค่าลงที่ 40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เชื่อว่าหากบริหารจัดการค่าเงินให้เหมาะสมมีเสถียรภาพรัฐบาลไม่จำเป็นต้องไปกู้เงินมากระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 4 แสนล้านบาท

นายบุณยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า จากการแข็งค่าของเงินบาทและกำลังซื้อในประเทศถอถอย ทางเครือสหพัฒน์จึงประเมินอัตราการเติบโตของเครือสหพัฒน์ในสิ้นปีนี้จะติดลบประมาณ 5% หรือเลวร้ายสุดติดลบ 10% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตต่ำสุดนับตั้งแต่ตนเข้ามาดำเนินธุรกิจต่อจากนายเทียม โชควัฒนา ผู้ก่อตั้งเครือสหพัฒน์ นอกจากนี้ ปีนี้ทางเครือจะหยุดการขยายการลงทุนในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540