ราคาน้ำมัน ทะยานสูงสุดในรอบ 6 เดือน พุ่งขึ้นเหนือ 63 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อานิสงส์จากความหวังว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว โอเปกเผยไม่ลดกำลังการผลิต
|
ราคาน้ำมัน ทะยานสูงสุดในรอบ 6 เดือน พุ่งขึ้นเหนือ 63 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อวันพุธ โดยได้รับอานิสงส์จากความหวังว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแล้ว และการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นก่อนการประชุมองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก ในการซื้อขายช่วงเช้า ราคาน้ำมันดิบไลท์ สวีต ตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือน ก.ค. พุ่งขึ้นไปถึง 63.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่เห็นครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ปีที่แล้ว ก่อนจะมายืนอยู่ที่ 63.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 60 เซ็น จากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร |
| . |
|
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในกรุง ลอนดอน งวดส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 66 เซ็น อยู่ที่ 61.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนหน้านี้ แตะถึง 62.29 ดอลลาร์ สูงที่สุดตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. เทรดเดอร์ มองว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น เพราะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอุปสงค์น้ำมันก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย |
| . |
|
นายอาลี อัล-นูไอมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย แถลงว่า ไม่มีความจำเป็นที่โอเปกจะลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐมนตรีน้ำมันของโอเปก ซึ่งจะประชุมกันในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันพฤหัสบดีนี้ (28 พ.ค.) จะตัดสินใจผลิตน้ำมันในระดับปัจจุบันต่อไป และนายนูไอมียังกล่าวด้วยว่า ราคาน้ำมัน ดูเหมือนจะทะยานขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากความต้องการน้ำมันในภูมิภาคเอเชียเพิ่มมากขึ้น. |
| . |
| ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ |
Thailandindustrycom_official
